svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

"นิ่ม" เปิดใจ โยน "น้องต่อ" จมลงแม่น้ำ อยากขอโทษลูกที่ทำอะไรไม่คิด

28 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นิ่ม" แม่เด็กชายวัย 8 เดือน เปิดใจ ยัน โยนลูกลงแม่น้ำจริง ครั้งนี้ไม่โกหก อยากขอโทษลูกที่ทำอะไรไม่คิด พร้อมขอโอกาสสังคม เริ่มชีวิตใหม่

28 กุมภาพันธ์ 2566 ความคืบหน้าการติดตามหาร่าง "น้องต่อ" เด็กชายวัย 8 เดือน หลัง น.ส.นิ่ม ผู้เป็นแม่ออกมายอมรับสารภาพว่า นำร่างเด็กไปทิ้งริมเเม่น้ำท่าจีน กระทั่งมีการระดมนักประดาน้ำปูพรหมค้นหาตั้งเเต่เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่พบร่างของน้องต่อ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง



"นิ่ม" เปิดใจ โยน "น้องต่อ" จมลงแม่น้ำ อยากขอโทษลูกที่ทำอะไรไม่คิด
ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา น.ส.นิ่ม พร้อมกับพ่อของเธอ ออกมาเปิดใจ หลังจากที่ถูกคุมคาม มีสื่อมวลชน ตามไปเฝ้าที่บ้านพ่อ บ้านป้า ของเธอ ทำให้เกิดความหวาดระเเวง จึงตัดสินใจออกมาพูดเป็นครั้งสุดท้าย เเละหลังจากนี้ขอให้สื่อมวลชน หยุดไปเฝ้าที่หน้าบ้านของเธอ ขอใช้ชีวิตในเเบบส่วนตัว ไม่อยากให้ไปวุ่นวาย  

น.ส.นิ่ม ยืนยันว่า ตนโยนน้องต่อลงเเม่น้ำจริงๆ บริเวณจุดที่ออกมายอมรับ ครั้งนี้ไม่ได้โกหก ตอนโยนลงไปน้องต่อก็จมลงไปในน้ำ สาเหตุที่โยนลงไปเพราะกลัวที่จะโดนว่า 

นอกจากนี้ น.ส.นิ่ม ยังบอกว่า ตอนนี้อยากขอโทษลูก เพราะวันนั้นทำอะไรโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วน ตอนนี้อยากเริ่มชีวิตใหม่ ขอโอกาสสังคมด้วย ไม่อยากให้มาถามเรื่องนี้อีกแล้ว ขอเวลาส่วนตัวแก่ครอบครัว และ อยากขอโทษพี่ๆ ทุกคน ที่ทำให้มันเป็นเรื่องวุ่นวายขนาดนี้

แม่ของเด็กชายวัย 8 เดือน ยังเปิดเผยอีก เกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของตัวเองว่า ตอนนี้อายุ 17 ปีแล้ว ตัวเองอยากเรียนหนังสือก็ไม่ได้เรียน ไม่กล้าที่จะฝันอะไรเลยในชีวิต อยากให้มีรายได้ก็พอแล้ว เพราะที่ไม่กล้าฝันเพราะไม่มีเงินส่งไปไกลขนาดนั้น

สำหรับคนที่เจอประสบการณ์แบบตัวเอง อยากให้คิดให้ดี ไม่ต้องกลัวอะไรที่จะเกิดมาตามหลัง สิ่งที่ตนเจอเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิต ทั้งนี้มีกระแสสังคมว่าตนโกหก หลอกคนอื่นอีกไหม จึงทำให้หาน้องต่อไม่เจอนั้น ตนยืนยันว่าได้รับบทเรียนจากการโกหกมาเยอะ ยืนยันว่าน้องลงน้ำตรงนั้น

 “พ่อนิ่ม “ ยอมรับ โกรธ ถูกถาม มีสัมพันธ์ลูก

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวถือเป็นตราบาปมากที่สุด คือ ถูกสื่อมวลชนบางสำนักตั้งคำถามว่า พ่อกับลูกนั้นเคยมีอะไรกันหรือไม่ ตรงจุดนี้ ทำให้ตัดสินใจที่จะออกมาแถลงข่าว เพราะว่าได้รับผลกระทบอย่างมาก ตัวของพ่อเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะหลังจากถูกตั้งคำถามนั้นก็ถูกกระแสโจมตีรุมด่ามาตลอด

"นิ่ม" เปิดใจ โยน "น้องต่อ" จมลงแม่น้ำ อยากขอโทษลูกที่ทำอะไรไม่คิด

โดยพ่อของแม่เด็กชายวัย 8 เดือน บอกว่า การไปออกข่าวตัวเองไปมีอะไรกับลูกนั้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ การพูดแบบนั้นโกรธมากไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิดจึงอยากให้สื่อดังกล่าวมาขอโทษตัวเองและครอบครัวด้วย

พ่อบอกว่า โกรธมาก เเต่ขณะนั้นสามารถควบคุมอารมณ์ได้ ไม่คิดว่าจะเป็นคำถามจากสื่อมวลชน เเต่ก็ไม่คิดจะเอาผิด

เปิดชนวน คดีล่าช้า เพราะ ตร.ใช้คำพูดข่มขู่ 

สาเหตุที่ น.ส.นิ่ม ยอมสารภาพกับมูลนิธิวิน วิน เเละกับนักข่าว เนื่องจากชุดสืบที่เรียกเธอไปสอบ ใช้คำพูดที่มีเเต่ดุด่า ในการเค้นสอบปากคำ ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ว่าทำไมไม่ยอมพูดสักที ทำให้คนอื่นต้องมาวุ่นวาย เดือดร้อน จึงทำให้เธอไม่ไว้ใจเเละให้ข้อมูลกับตำรวจ 

อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้คดีนี้คลี่คลาย ก็คือมูลนิธิวิน วิน ที่ลงมาติดตามเเละคอยให้ความช่วยเหลือ ทำให้ น.ส.นิ่ม เเม่ของเด็กไว้ใจเเละยอมที่จะเปิดเผยเล่าความจริงให้กับตำรวจฟัง 

"นิ่ม" เปิดใจ โยน "น้องต่อ" จมลงแม่น้ำ อยากขอโทษลูกที่ทำอะไรไม่คิด

สาเหตุที่ทำให้คดีเเละการตามหาเด็กล่าช้า เเละน.ส.นิ่มก็ไม่ยอมพูดความจริง เพราะน.ส.นิ่ม กลัวมีความผิด อีกปัญหา ชาวบ้านไม่เชื่อมั่นกับทางตำรวจ เเละ ส่วนหนึ่งห่วงว่ากลัวเป็นคดีความ กันไปเป็นพยาน เสียเวลาการทำมาหากิน เเละ การขึ้นศาล

ทางมูลนิธิเอง จึงเข้ามาช่วยเสริม ทำให้เกิดความไว้วางใจกับทางตัวของน.ส.นิ่ม ที่มั่นใจว่า จะมีความเป็นกลาง ไม่ได้จ้องจับผิด ให้ความช่วยเหลือได้ ประสานเข้าถึงจิตใจของเขาได้ เเละ มองว่าเป็นปัญหาสังคม ที่เเต่ละคนมีต้นทุนชีวิตที่ไม่เท่ากัน โดยการเข้ามาสังเกตการณ์ จึงทำให้พยายามหาวิธีในการช่วยเหลือทำให้เข้าไว้ใจ เเละ ยอมพูดความจริง 

โดยหลังจากนี้ ทางมูลนิธิวิน วิน จะให้ความช่วยเหลือในด้านมนุษย์ธรรมกับทางครอบครัวของ น.ส.นิ่ม เนื่องจากเเม่ของเธอเป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยประสานทางพัฒนาสังคม เเละ ความมั่นคงของมนุษย์เข้าไปให้ความช่วยเหลือ ทั้งการกายภาพบำบัด เเละจัดหาสิ่งของที่จำเป็นที่ขาด

logoline