เปิดใจครูพี่เลี้ยง หลังถูกผู้ปกครองร้อง "ปวีณา" ทำร้ายเด็กออทิสติก

17 กุมภาพันธ์ 2566 ความคืบหน้ากรณีนางแหม่ม อายุ 54 ปี บินกลับจากประเทศเยอรมัน ก่อนพานายเม่น ลูกชายออทิสติก อายุ 29 ปี เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาฯ หลังพาลูกชายไปฝากเลี้ยง ที่บ้านรับเลี้ยงคนออทิสติก ย่านบางบัวทอง

แต่ลูกกลับถูกทำร้ายทุบตีทารุณ ใช้มีดแทงหน้าอก ใช้สากกะเบือตีมือ จมูกผิดรูปหายใจไม่สะดวก ส่วนใหญ่จะให้รับประทานข้าวกับไข่เจียว ข้าวคลุกผงปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อีกทั้งให้ลูกหยุดรับประทานยาประจำที่แพทย์สั่ง แม่สังเกตเห็นความผิดปกติ รับลูกกลับมาอยู่บ้าน มีอาการหวาดผวา ก้าวร้าว ต่อต้านคนในบ้าน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• "ปวีณา" พาผู้ปกครองเด็กออทิสติก ถูกพี่เลี้ยงทำร้าย พบผู้การนนท์ช่วยจี้คดี
• เปิดแชตครูสถานรับเลี้ยงหนุ่มออทิสติก อ้าง ไม่ได้ทำร้าย ผอมลงเพราะลดน้ำหนัก
• แม่ร้องปวีณา ส่งลูกชายออทิสติก ไปอยู่สถานรับเลี้ยง ถูกครูทำร้าย-มีดแทงอก 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ บริเวณสถานรับเลี้ยงดังกล่าว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านทิพย์พิมาน หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบว่าเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น มีเด็กออทิสติกที่อยู่ในความดูแล 5 คน มี น.ส.ชุติกาญจน์ พงษ์พยัคฆ์ หรือ ครูเตย เป็นเจ้าของสถานที่ พร้อมเปิดเผยว่า น้องเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด ต้องฉีดยาทุกสัปดาห์ โดนอะไรนิดหนึ่งก็เขียว ตนต้องอธิบายที่บ้านน้องว่า เกิดอะไรขึ้น เพราะส่วนตัวก็ช็อกอยู่

ที่ผ่านมาตนแทบไม่ได้ลงโทษอะไรเลย กฎที่มีเราต้องแจ้งที่บ้านก่อน ถ้าจะทำโทษมันหามูลเหตุไม่ได้ บ้านตนเองไม่รับเด็กโต รับเด็กเล็กคือไม่เกิน 6 ขวบ เรารู้ว่าเด็กโตดูแลยาก กรณีนี้บอกเลยว่า ไม่ได้อยากรับ และวันที่มาติดต่อไม่ได้เจอกับตน จึงโทรบอกคุณแม่ว่าให้รอ ตนจะรีบขับรถมา แม่บอกมาว่า คุณเตยไม่ว่างอีกคนหรือคะ ไม่รู้แม่จำได้ไหม คือแม่ยังไม่รู้เลยว่า ตนเองอะไรยังไง 

ครูเตย กล่าวต่อไป ตนเองไม่ใช่ศูนย์ คำว่าศูนย์ต้องมีเด็ก 6 คน เรามีแค่ 4 หรือ 5 คนเต็มที่ ทั้งปิดเทอมหรือฝากวันละชั่วโมง เรื่องที่เกิดขึ้นตนรู้สึกช็อก ประเด็นที่ว่าน้องเดินชน ความจริงน้องไม่ได้ชน แต่ก็อกน้ำอยู่ประมาณเข่า วันนั้นตนให้น้องล้างของทำกิจกรรม ให้น้องรองน้ำ แล้วเงยหน้าขึ้นมาชน ซึ่งทุกครั้งที่มีร่องรอย ก็จะส่งบอกผู้ปกครอง ส่วนจะไปคุยกันในเครือญาติอย่างไร ตนไม่ทราบ ส่วนตัวกำลังงงว่า มีใครทำอะไรน้อง ที่ผ่านมาตนได้แค่ดุเสียงดัง 

ครูเตย กล่าวว่า ส่วนข่าวเรื่องอาหารยืนยันว่า ไม่จริง ตนซีเรียสเรื่องกิน ถ้าบอกเอาผงปรุงรสบะหมี่ มากินไม่มี แต่ถ้าเอาเส้นมาผัดนั้นมี เพราะเมื่อก่อนไม่ทราบว่า มีเส้นเปล่าขาย จึงซื้อแบบซองมา แล้วแยกผงปรุง เพราะในบ้านมีแต่เด็กเล็ก ทำรสชาติไม่เผ็ด มีน้องเขาคนเดียวที่โต โดยเด็กกินยังไงตนก็กินแบบนั้น

สิ่งที่น้องทำคือ เทพริกป่นจนหมดกระปุก ตนถามว่ากินได้มั้ย น้องบอกว่า กินได้ ถ้าเป็นตนก็คงกินไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าบ้านน้องกินรสจัดไหม เพราะทางบ้านไม่ได้แจ้งไว้เลย ข้อมูลส่วนตัว ก็ไม่ได้รับทราบขนาดนั้น วันที่เขามาส่งน้อง แพ็กกระเป๋ามา แล้วน้องชอบคุยกับผู้หญิง พอน้องเผลอเขาก็ไป

แม่ของน้องกับตนเจอกัน แค่วันที่มาส่งน้อง มาวันนี้คืออะไร ถ้าลูกมีบาดแผล ต้องโทรมาถามตนก่อน ไม่ใช่ไปแจ้งความเลย ตนงงทำไมเขาหาว่าเราโหดร้าย ถึงขนาดเอามีดแทงเด็ก นั่งดูรายการข่าวก็ตกใจ มันจุกมาก บางบ้านติดค่าสอนไม่เคยทวง เป้าหมายเราคือ เลี้ยงเด็กเล็กเพื่อให้เข้าอนุบาล ยืนยันตนไม่ได้แก้ตัวแทนครูคนอื่น แต่ยังไม่ได้สอบถาม ไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวใหญ่โต 

วันนี้ครูอีกคนหยุด มีพี่หนุ่มโทรมา สารวัตรโทรมา นักข่าวมา ตนก็ช็อก ไม่รู้ต้องพูด ต้องเตรียมอะไร ทำตัวไม่ถูก ชื่อเสียงที่สร้างมา 10 กว่าปีหมดเลย บ้านหลังนี้เพิ่งซื้อ แล้วต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ตนขอโทษนักข่าว เพราะไม่รู้จะต้องตอบยังไง

 

ด้านผู้ปกครองรายหนึ่ง กล่าวว่า หลังจากที่ลูกสาวมาเรียนที่นี่ประมาณ 1 ปี ลูกพัฒนาการดีขึ้น ไม่ได้เป็นแบบที่ข่าวออกไป ลูกเป็นออทิสติก จากพูดไม่ได้เลย ตอนนี้น้องพูดและสื่อสารได้ จากน้องไม่นิ่ง ตอนนี้น้องนิ่งกว่าเดิม พัฒนาการดีขึ้น พอเห็นข่าวก็รู้สึกช็อก

ขณะที่ นายยศวัฒน์ คงมี ปลัดอำเภอบางบัวทอง กล่าวว่า นายอำเภอบางบัวทองให้ตนลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา สอบถามนิติบุคคลทราบว่า บ้านหลังนี้เปิดเป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็กออทิสติก หลังจากนี้จะประสาน พม. เพื่อให้ลงมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง