ชาวบ้านวังน้ำเขียว ถูกกระทิงขวิด ยังโคม่าต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน

1 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก “มูลนิธิฮุก 31 นครราชสีมา” ได้โพสต์ภาพ ลูกข่าย ฮุก 31 โคราช จุดอุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา กำลังให้ความช่วยเหลืออาสาสมัคร ชุดผลักดันช้าง หลังได้รับแจ้งเมื่อเวลา ประมาณ 11.30 น. วานนี้ (31 ม.ค.) ว่า อาสาสมัครหน่วยผลักดันช้างบ้านหนองแวง ม. 12 และบ้านซับพลู ม.16 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ที่ทำงานร่วมกับ ฮุก 31 โคราช ถูกกระทิงป่าขนาดใหญ่ ที่ออกมาหากินร่วมกับฝูงนอกแนวเขตป่าทับลาน พุ่งเข้าใส่ขณะออกลาดตระเวนเฝ้าระวัง โดยกระทิงพุ่งใส่ และใช้เขาขวิดที่ลำตัวเป็นแผลลึก ที่หน้าอก ใต้ราวนมซ้าย อาการสาหัส เสียเลือดมาก ต้องส่งต่อไปรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ด่วน! กระทิงป่าทับลานขวิด อส.ชุดผลักดันช้าง ขณะขี่ จยย.ลาดตระเวน สาหัส

ล่าสุด วันนี้ (1 ก.พ.) นายสมภพ มุกดาสนิท นายอำเภอวังน้ำเขียว เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านซับพลู ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว พร้อมกับปลัดอำเภอ , รอง ผกก.สอบสวน สภ.อุดมทรัพย์ , จนท.อุทยานแห่งชาติทับลาน และกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านของ ต.อุดมทรัพย์ เพื่อร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ ในจุดที่ชาวบ้านถูกกระทิงขวิดได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมกันนี้ ได้ให้กำลังใจและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ มาตรการระวังป้องกันภัยให้กับชาวบ้านในพื้นที่

และเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยในการทำงานของเจ้าหน้าที่ฯ ที่เฝ้าระวังป้องกันสัตว์ป่าบุกรุกพื้นที่การเกษตร ซึ่งชาวบ้านต่างรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะส่วนใหญ่จะมีโขลงช้างป่าเข้ามาบุกรุกทำลายพืชผลเกษตร แต่ไม่เคยทำร้ายคน ส่วนกระทิงป่าจะเข้ามาพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุบ้างไม่กี่ครั้ง และมาครั้งละตัว สองตัว ไม่ได้มาเป็นฝูงใหญ่ และไม่เคยทำร้ายคนมาก่อน กรณีนี้เป็นเคสแรกที่เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านซับพลู

จากการสอบถาม นายสัญญา ชิดสำโรง ผู้ที่ถูกกระทิงขวิด จนบาดเจ็บสาหัส ได้เล่าว่า วันที่เกิดเหตุขี่จักรยานยนต์ออกไปดูไร่มันสำปะหลังที่ปลูกเอาไว้ตามปกติเหมือนกับทุกวัน ไม่ได้เป็นอาสาสมัครหน่วยผลักดันช้างบ้านหนองแวง ม. 12 และบ้านซับพลู ม.16 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งระหว่างขี่รถไปไร่วันเกิดเหตุ จู่ๆ กระทิงป่าก็พุ่งมาชนและขวิดแล้ววิ่งหนีไป อย่างรวดเร็ว ไม่รู้มาจากทางไหน จากการลงพื้นที่ตรวจสอบก็ไม่พบตัวกระทิงป่า พบแค่เพียงรอยเท้าเหยียบย่ำไปมาและรอยถอยต้นมันสำปะหลัง

ตอนนี้ ชุดผลักดันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เพิ่มมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่า กระทิงป่าตัวนี้เคยทำร้ายคนมาแล้ว จะก่อเหตุทำร้ายคนอีกหรือเปล่า ก็ต้องตรวจตราเฝ้าระวังกันเข้มข้นมากขึ้นอีก ซึ่งได้เน้นย้ำไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อย ให้บูรณาการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ และกลุ่มอาสา ต่างๆ ส่วนผู้บาดเจ็บอาการยังสาหัสอยู่ และต้องเข้ารับการผ่าตัดในวันนี้ ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา

ขอบคุณภาพจาก เพจ มูลนิธิฮุก 31 นครราชสีมา