svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ตร.ทยอยเรียก พนง.ฟิตเนสดัง สอบปากคำ ด้าน หนุ่มนักธุรกิจ ยันเก็บกุญแจไว้กับตัว

12 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตร. ทยอยเรียกพนักงานฟิตเนสดัง เข้าสอบปากคำ หลังนักธุรกิจหนุ่ม ถูกมือดีขโมยทรัพย์สินในล็อกเกอร์สูญกว่า 10 ล้านบาท ด้าน หนุ่มนักธุรกิจ เผย พิรุธคนร้ายลักษณะใช้กุญแจไขเอาของไป ก่อนล็อกแบบเดิม ยันเก็บกุญแจไว้กับตัว ชี้อยากให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมมากขึ้น

12 มกราคม 2566 จากกรณี นายสาธิต (สงวนนามสกุล) หนุ่มนักธุรกิจ ได้เข้าใช้บริการที่ฟิตเนสชื่อดังบนห้างย่านงามวงศ์วาน ในจ.นนทบุรี แล้วสิ่งของมีค่าที่เก็บเอาไว้ขณะออกกำลังกาย ถูกขโมยหายไปจากตู้ล็อกเกอร์ที่เก็บของสูญหายไปกว่า 10 ล้านบาท จึงรีบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 10 ม.ค.2566 ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง



ต่อมา ทางผู้สื่อข่าวไปขอสัมภาษณ์กับทางผู้จัดการดูแลฟิตเนสแห่งนี้ ว่าเรื่องของหายของลูกค้านักธุรกิจหนุ่มดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ภายในมีระบบกล้อง CCTV รักษาความปลอดภัยเพียงพอหรือไหม มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสถานที่แห่งนี้จะปลอดภัยมากน้อยเพียงใด เพราะมีเคสลูกค้าเข้ามาใช้บริการทรัพย์สินถึงได้หายกันบ่อยแล้วเรื่องเงียบหายกันไป แต่กลับได้รับคำตอบจากผู้จัดการที่ดูแลสถานที่เพียงว่า ไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลใดๆกับทางสื่อมวลชน ทางเราได้ให้ข้อมูลหลักฐานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว 

ตร.ทยอยเรียก พนง.ฟิตเนสดัง สอบปากคำ ด้าน หนุ่มนักธุรกิจ ยันเก็บกุญแจไว้กับตัว

จากนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี โดย พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ทาง พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้ประชุมติดตามคดี โดยสั่งการชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้นทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว เพื่อเอาพยานหลักฐาน และได้ให้หน่วยงานพิสูจน์หลักฐานเข้าไปเก็บหลักฐานเพื่อหาลายนิ้วมือ จะมีการตรวจลายนิ้วมือของพนักงานฟิตเนสทุกคนเพื่อทำการเปรียบเทียบ ทางตำรวจกำลังดำเนินการเชิญพนักงานที่ร้านทั้งหมดมาสอบปากคำตามรายบุคคล ตามขั้นตอนจะต้องสอบปากคำทั้งหมดทุกคน เพราะล็อกเกอร์จะมีกุญแจอยู่ 2 ดอก จะมีกุญแจที่แจกให้กับลูกค้า 1 ดอก และกุญแจสำรอง 1 ดอก อยู่ในห้องของผู้จัดการร้าน ซึ่งตนได้คุยเบื้องต้นกับทางผู้จัดการร้านแล้ว แต่ยังไม่ได้สอบปากคำแบบละเอียดอีกครั้ง ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

นายสาธิต หนุ่มนักธุรกิจ ผู้เสียหาย

ขณะที่ นายสาธิต (ขอสงวนนามสกุล) หนุ่มนักธุรกิจ อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนไปถึงที่ฟิตเนสประมาณ 6 โมง เช็คอิน เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดออกกำลังกาย และเก็บของตามปกติ เสร็จแล้วลงไปออกกำลังกายประมาณ 2 ชม. หลังจากนั้น ขึ้นมาเอาผ้ามาเช็ดหน้าและกำลังจะอาบน้ำ เปิดล็อกเกอร์มาโล่ง ตนเลยคิดว่าเปิดผิดตู้ เลยเปิดใหม่ดู จากนั้นตนก็วิ่งลงไปเพื่อแจ้งกับฟิตเนสว่าของตนหายหมดเลย ทางฟิตเนสบอกว่าจะช่วยดูกล้องให้ ตนเลยบอกขออนุญาตโทรแจ้งความ ตรงห้องน้ำมันไม่มีกล้องวงจรปิด จะมีแค่บริเวณทางเข้า จะเห็นได้แค่ว่าใครเข้า-ออก

หลังจากตนโทรไปแจ้งความตำรวจสายตรวจก็มาที่เกิดเหตุ แต่ทางฟิตเนสก็ไม่ให้เข้าบอกต้องมีหมายมาก่อน ตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่มแล้ว ฟิตเนสปิดประมาณ 4 ทุ่ม ตนเลยโทรหาเพื่อนให้มารับพาตนไปลงบันทึกประจำวันและขอใบไปยื่นกับทางฟิตเนสเพื่อให้ตำรวจเข้าที่เกิดเหตุ ทางฟิตเนสก็ดำเนินการตามขั้นตอนของเขา แต่ตนคิดว่าถ้าทำได้ดีกว่านี้คงไม่มีปัญหา ตนยังมองว่าทางฟิตเนสกันๆบางส่วนอยู่ ทำไมเกิดเรื่องแล้วถึงไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไป 

ตร.ทยอยเรียก พนง.ฟิตเนสดัง สอบปากคำ ด้าน หนุ่มนักธุรกิจ ยันเก็บกุญแจไว้กับตัว

สำหรับของตนที่หาย มีนาฬิกา มีพระ มีสร้อยพระ เลส-แหวน กุญแจรถ เสื้อเชิ้ตทำงานแขนยาว กางเกงสแล็ค แม้กระทั่งกางเกงในก็ยังเอาไป ครีมทาผิว ซึ่งเอาไปหมดเลย ตนกังวลว่าเรื่องจะนิ่งหลังจากที่เกิดเรื่องและมีข่าวออกไปก็มีคนทักมาหาตนว่า เขาก็เคยของหายเป็นผู้เสียหายเหมือนกัน แต่ข่าวเงียบไป ตนก็เป็นผู้เสียหายที่ต้องมาร้องเรียน คือล็อกเกอร์ต้องมีคีย์การ์ดใส่เข้าไป เพื่อบิดกุญแจออก ตนเอาของเก็บเสร็จก็ไปออกกำลังกาย เข้ามาก็ไขเหมือนเดิม ซึ่งล็อกเกอร์ไม่ได้มีรอยงัดอะไรแต่ของหายไปหมดเลย 

ตนไม่อยากจะเดาว่าเป็นคนใน แต่ลักษณะมันคือเอากุญแจไขเอาของไป ไม่ได้เปิดค้างไว้ คือเอาของไปและก็ไขกุญแจล็อคเหมือนเดิม ตนก็คนออกกำลังกาย อยากให้มีความปลอดภัย มีความไว้ใจได้ มันก็ค่อนข้างใจหาย ตนใช้บริการที่นี่มาเป็นสิบปีแล้ว ระบบการรักษาความปลอดภัยควรจะรัดกุมมากกว่านี้ ลูกค้าที่มาใช้บริการออกกำลังกายจะได้ไม่ระแวงข้าวของสูญหายระหว่างทำกิจกรรม

ตร.ทยอยเรียก พนง.ฟิตเนสดัง สอบปากคำ ด้าน หนุ่มนักธุรกิจ ยันเก็บกุญแจไว้กับตัว

ด้าน ว่าที่ร้อยตรีศรัณย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี หนึ่งในสมาชิกเมมเบอร์ของฟิตเนสชื่อดังแห่งนี้ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุทางฟิตเนสมีกิจกรรม และมีคนเข้า-ออกเยอะ ตนได้เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ด้วยความที่เคยมีเหตุการณ์ของหายมาแล้ว ตนค่อนข้างที่จะเซฟตัวเองระดับนึง เพิ่งจะมารู้ข่าวว่ามีผู้เสียหายในข่าวเก็บกุญแจไว้ที่ตัว แล้วใครจะไปไขล็อกเกอร์เขา วันนั้นมีกิจกรรมเยอะมาก มีคนเยอะโดยที่เราก็ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นโจร

ตนเคยของหายในฟิตเนสแห่งนี้เหมือนกัน เมื่อ 1-2 ปีก่อน เป็นหูฟัง ลืมวางเอาไว้แถวล็อกเกอร์ ผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีก็หายเลย แต่ราคาไม่แพงตนเลยไม่ได้ไปแจ้งความ ด้วยความที่ตนเป็นเมมเบอร์ที่นี่มาประมาณ 10 กว่าปี มีความรู้สึกว่าเกิดเหตุของหายบ่อย เพื่อนๆก็เคยของหาย มีการเตือนกันให้ระวังตัว ตนรู้สึกระแวงเพราะเราจ่ายเมมเบอร์แล้วต้องมานั่งกังวลอยู่ มันก็ไม่ใช่ และอย่างเคสนี้ลูกค้าเอากุญแจไว้ที่ตัวเลย ยิ่งทำให้รู้สึกว่าความปลอดภัยอยู่ตรงไหน 

ว่าที่ร้อยตรีศรัณย์ กล่าวอีกว่า ตนอยากให้ทางฟิตเนสออกมาชี้แจงเรื่องความปลอดภัยของเมมเบอร์ ที่จ่ายเงินเข้ามาใช้บริการ หรือลูกค้าต้องมานั่งระแวงเอง กับเคสที่เป็นข่าวตนรู้สึกแปลกมากว่าของหายไปได้ยังไงทั้งที่กุญแจอยู่ที่ลูกค้า ส่วนตัวหากมีข่าวแบบนี้ออกมาบ่อยๆ มีของหายหลายๆสาขากับฟิตเนสแบรนด์นี้ ตนอาจจะเปลี่ยนไปใช้บริการฟิตเนสอื่นดีกว่า เพราะเกิดความไม่ปลอดภัยกับตัวเองและทรัพย์สิน

ตนอยากให้ทางฟิตเนสออกมาชี้แจงและมีมาตรการที่มีให้กับลูกค้า ของมันหายบ่อยไปมั้ย เข้าใจว่าจุดล็อกเกอร์มันติดกับห้องน้ำเลยไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ตอนนี้จากข่าวคือกลายเป็นเมมเบอร์ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย ต้องคอยมานั่งระวังเมมเบอร์กันเองด้วย เวลาที่ตนมาฟิตเนสก็ต้องคอยระวัง คอยดูว่าพกกุญแจติดตัวมั้ย ลืมกุญแจไว้หรือเปล่า และพยายามหาของที่ราคาไม่แพงมาใช้ 

"ตนก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีผู้เสียหายเพิ่มอีกมั้ย แต่อยากให้ทางฟิตเนสมีมาตรการณ์ที่ป้องกันและดูแลความปลอดภัยให้กับลูกค้าหรือเมมเบอร์มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันตนยังใช้บริการฟิตเนสที่นี่อยู่และต้องพกกางเกงในกระดาษติดตัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเคยไปเข้าฟิตเนสแห่งนี้และกางเกงในหาย ซึ่งกางเกงในของตนมียี่ห้อและราคาประมาณ 6-700 บาท ตนรู้สึกเสียดายและต้องระวังตัวเองในการใช้บริการตลอดเวลา" ว่าที่ร้อยตรีศรัณย์ กล่าว

 

logoline