svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เผย เร่งค้นหานทท.โรมาเนีย ต่อวันนี้

09 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เผย ความคืบหน้าค้นหา นทท.ชาวโรมาเนีย สูญหายขณะลงดำน้ำบริเวณเกาะแก้วนอก ยุติชั่วคราวเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เนื่องจากคลื่นลมแรงและมืด พร้อมเร่งค้นหาต่อเช้าวันนี้ โดยเป้าหมายทั้งบริเวณจุดเกิดเหตุ และเวิ้งโขดหินในรัศมี 100 ม.

9 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลราไวย์ว่า ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่า ได้ไปดำน้ำกับเพื่อนที่เกาะแก้วนอก แต่ปรากฏว่าเพื่อนได้จมน้ำหายไป จึงขอให้เจ้าหน้าที่ฯ ช่วยทำการค้นหา 

โดยได้สั่งการให้เรือเจ็ตสกี ไลฟ์การ์ด และงานป้องกันฯ นำเรือยางออกค้นหา พร้อมประสานตำรวจน้ำ, ทัพเรือภาค 3, ตำรวจท่องเที่ยว และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ออกทำการค้นหายังจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง พร้อมทั้งได้ตั้งศูนย์บัญชาการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่สูญหาย เพื่อเป็นจุดประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฯ และญาติผู้สูญหายขึ้นที่บริเวณหาดยะนุ้ย ซึ่งได้ทำการค้นหาจนถึงค่ำวันเดียวกัน จึงจำเป็นต้องยุติชั่วคราว เนื่องจากคลื่นลมแรง และทัศนวิสัยในการค้นหาไม่เอื้ออำนวยเนื่องจากมืด ทำให้การค้นหาลำบาก โดยมีการรวมกำลังทำการค้นหาใหม่ในวันนี้ (10 ม.ค.) 

ทั้งนี้จากรายงานข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวอายุ 46 ปี สัญชาติโรมาเนีย ก่อนเกิดเหตุได้นำเรือสปีดโบ๊ท ชื่อ ชอว์นิก้า พร้อมเพื่อร่วมชาติ 1 คน และหญิงไทย 1 คน ออกจากบริเวณหาดในหาน เมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันที่ (8 ม.ค. และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีการทอดสมอเพื่อชมบรรยากาศ ขณะที่จะถอนสมอปรากฏว่า ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากอาจจะติดอะไรบางอย่างใต้น้ำ ผู้สูญหายจึงดำน้ำลงไปดูและไม่ขึ้นมาอีกเลย เพื่อนที่ไปด้วยจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ทำการค้นหา และแจ้งภรรยาคนไทย ซึ่งก็ได้เดินทางมาติดตามการค้นหาด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ผู้ว่าฯภูเก็ต(เสื้อสีน้ำเงิน)กับรองนายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (8 ม.ค.) นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต ได้ลงพื้นที่หาดยะนุ้ย ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศูนย์บัญชาการฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการค้นหานักท่องเที่ยวคนดังกล่าว โดยมีนายธีรพงษ์ เถาว์แดง รองนายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์, พันจ่าเอกนพวุธ บุญบุตร รองปลัดเทศบาลตำบลราไวย์และนายจรุง เถาจันทร์ กำนันตำบลราไวย์ ร่วมให้ข้อมูลของเหตุการณ์และการค้นหาตลอดช่วงบ่ายวันที่ 8 ม.ค.

หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเทศบาลตำบลราไวย์, ตำรวจน้ำ, ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจ สภ.ฉลอง, ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว,มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต, เพื่อนและภรรยาของผู้สูญหาย ได้ประชุมสรุปสถานการณ์ และวางแผนในการค้นหาต่อในวันนี้ (9 ม.ค.)

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังจากรับฟังข้อมูล ว่า การลงพื้นที่นั้นเพื่อติดตามสถานการณ์ และสรุปผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ก่อนจะหาข้อสรุปและวางแนวทางในการการดำเนินการค้นหาต่อ ซึ่งได้เน้นย้ำในเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย เนื่องจากในช่วงเกิดเหตุกระแสน้ำค่อนข้างแรงมาก และยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้สูญหายว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังมีนักดำน้ำอาสาสมัครมาช่วยด้วย ทั้งนี้ฝากไปยังผู้ที่นำเรือออกทะเลขอให้ตรวจสอบสภาพคลื่นลมให้ดีก่อน เพื่อความปลอดภัย

เจ้าหน้าที่เร่งค้นหานักท่องเที่ยวโรมาเนีย สูญหายในทะเล ที่หาดราไวย์

 

รองนายกเทศมนตรีราไวย์

ขณะที่นายธีรพงษ์ เถาแดง รองนายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับเพื่อนของผู้สูญหายซึ่งเป็นชาวโรมาเนียกับคนไทยรวม 2 คน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำเรือออกจากหาดในหาน และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้ทอดสมอเพื่อดูบรรยากาศ ขณะนั้นคลื่นลมไม่แรง แต่ปรากฏว่าเมื่อจะถอนสมอ ไม่สามารถทำได้สันนิฐานว่า น่าจะไปติดกับอะไรบางอย่างใต้น้ำ ผู้สูญหายจึงได้ดำลงไปดูแต่ปรากฏว่า เมื่อลงไปแล้วก็หายไปเลย เนื่องจากกระแสน้ำด้านล่างค่อนข้างแรงมาก เขาพยายามเรียกให้เพื่อนขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ และหายไป เนื่องจากผู้สูญหายตัวใหญ่ น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม และมีตะกั่วถ่วงอยู่ประมาณ 5 ก้อน น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม และเสื้อดำน้ำ

“เท่าที่ได้วิเคราะห์ร่วมกับเพื่อนของผู้สูญหาย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต คาดว่าน่าจะขาดอากาศหายใจ จึงได้ประสานนำเรือศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อบจ.ภูเก็ต ออกจากท่าเรืออ่าวฉลอง มุ่งหน้าไปทางทิศใต้ของเกาะราชาน้อย ประมาณ 30 ไมล์ทะเล เพราะจากประสบการณ์พบว่า กระแสน้ำกับกระแสลมไปคนละทิศทาง และเป็นช่วงน้ำลง จึงให้วนเรือไปทางขวาประมาณ 1 ไมล์ทะเล ก่อนวนกลับซึ่งมีการขับอย่างช้าๆ ซึ่งสภาพอากาศค่อนข้างดี และทัศนวิสัยมองได้ไกลถึง 100 เมตร แต่ไม่เจออะไรเลย นอกจากนี้ยังมีเรือประมงและเรือนำเที่ยวในบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมาก หากหลุดไปย่อมต้องมีเรือลำใดลำหนึ่งพบเห็น”

นายธีรพงษ์ กล่าวด้วยว่า จากประสบการณ์ค้นหาผู้สูญหายในทะเล หากจุดเกิดเหตุห่างจากเกาะประมาณ 20 เมตร บริเวณรอบชายเกาะแก่งจะเป็นเวิ้งหินหน้าผา และผู้สูญหายมีตะกั่วถ่วง ประกอบกับในช่วงนั้นเป็นช่วงที่น้ำกำลังลง เท่าที่คุยกับเพื่อนผู้สูญหายบอกว่า จุดเกิดเหตุห่างจากเกาะประมาณ 20 เมตร และผู้สูญหายหลุดไปในลักษณะเฉียงกับเรือประมาณ 20 เมตร โดยเรือกับคนจมน้ำห่างกันเพียง 10 เมตร จึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากว่าร่างจะถูกซัดไปติดอยู่ที่เวิ้งหิน ซึ่งตามแผนจะเข้าไปค้นหาในจุดดังกล่าว

อย่างไรก็ตามนายธีรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ได้มีการจัดกำลังลงไปค้นหาในจุดที่เกิดเหตุอีกครั้ง รวมถึงบริเวณเวิ้งโขดหินที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุไม่เกิน 100 เมตร ขณะที่ระดับน้ำลึก 25-30 เมตร ส่วนปัญหาอุปสรรคสำคัญ คือ คลื่นลมไม่แน่นอน บางช่วงก็เงียบสงบ แต่บางครั้งค่อนข้างแรง โดยเฉพาะกระแสน้ำ

สาลินี ปราบ รายงานจากจ.ภูเก็ต

logoline