2 มกราคม 2566 ที่ จ.นราธิวาส พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อม พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าทีที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงคดีลอบวางระเบิดแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส และความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดทางรถไฟพื้นที่ จ.สงขลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีลอบวางระเบิดแฟลตตำรวจนราธิวาส จนเป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 25 นาย และครอบครัวตำรวจ บาดเจ็บ 18 ราย แฟลตและบ้านพักทางราชการได้รับความเสียหาย 70 ห้อง และทรัพย์สินส่วนตัวได้รับความเสียหายจำนวนมาก
หลังเกิดเหตุเมื่อ 22 พ.ย.65 ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ พบข้อมูลเชิงลึก ระบุ คนร้ายขับกระบะคันที่ติดตั้งระเบิด หรือ คาร์บอมบ์ มาจอดภายในบริเวณแฟลตตำรวจ แล้วเดินลงจากรถ ออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ของคนร้ายที่มารอรับด้านหน้า แล้วหลบหนีไป
จากการตรวจสอบทะเบียนรถ พบว่ามีการโอนขายลอยกันเป็นทอด ๆ ตั้งแต่ปี 64 และนางสาวไซนะ เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้าย ก่อนมีการประกาศขายผ่านเฟซบุ๊ก ต่อมามีคนมาติดต่อซื้อ นัดส่งมอบรถกันบริเวณ ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 65 โดยมีชาย 2 คน ขับขี่ จยย.มารับรถกระบะ ซึ่งมีพยานยืนยันว่า 1 ใน 2 คน ที่มารับรถเป็นนายฮัสบูเล๊าะ สะนิ
ส่วนกล้องวงจรปิด เผยภาพคนร้ายเดินทางออกมาจากพื้นที่ อ.ตากใบ มียานพาหนะจำนวน 6 คันเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ตรวจยึดแล้ว 5 คัน และขยายผลควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 คน คือ นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ และ นายอุสมัน สะนิ ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันกับพวกก่อเหตุ คดีนี้สามารถพิสูจน์ทราบรู้ตัวบุคคลที่ร่วมกระทำผิดแล้ว 9 คน
ขณะที่ศาลจังหวัดนราธิวาส อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีนี้แล้ว 9 คน ประกอบด้วย 1.นายฮัสบูเลาะ สะนิ 2.นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ 3.นายอับดุลมาทิน มามะ 4.นายอุสมัน สะนิ 5.นายอับดุลฮาฟิซ ดือเระ 6.นายวาฟี สะปาดี 7.นายอีซาล สาและ 8.นายไซปูรูสมัน มามะ และ 9.นายมูฮำหมัดฮาฟิส เจะดือราแม ซึ่งตำรวจจับกุมได้ 2 ราย (อับดุลมูบิน ลาเต๊ะ/ อุสมัน สะนิ) ส่วนอีก 7 ราย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนคดีที่ 2 “คดีลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้า” ระหว่างสถานีรถไฟคลองแงะ – ปาดังเบซาร์ ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ขบวนรถไฟตกราง รางรถไฟ และสินค้าได้รับความเสียหาย และเกิดเหตุซ้ำวันที่ 6 ธ.ค. 65 เป็นเหตุเจ้าหน้าที่การรถไฟ เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 4 นาย
โดยผลการตรวจที่เกิดเหตุ พบชิ้นส่วนถังแก๊ส ชิ้นส่วนองค์ประกอบระเบิดบางส่วน เชื่อว่าเป็นระเบิดแบบเหยียบ โดย ที่ผ่านมา เหตุลอบวางระเบิดแบบเหยียบ เคยนำมาก่อเหตุต่อรางและขบวนรถไฟ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคดีนี้ มีการออกหมายจับนายอัซมัน เปาะเลาะ กับพวกคนร้ายที่ก่อเหตุในช่วงปี 64 ซึ่งการเปรียบเทียบวัตถุพยานและแผนประทุษกรรมคดีนี้ พบว่า เหมือนกับคดีที่นายอัซมัน เปาะเลาะ ก่อเหตุมาก่อนหน้านี้
คดีต่อมา จากกรณีการควบคุมตัวนายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ พร้อมอาวุธปืน 4 กระบอก จากพื้นที่ อ.จะนะ เมื่อ 3 ก.พ.65 พร้อมคำให้การซัดทอดว่า ได้รับคำสั่งจากนายอับดุล ให้ตนกับนายอัซมัน เปาะเลาะ สำรวจดูเส้นทางรถไฟสายหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ บริเวณบ้านท่าโพธิ์ เพื่อเตรียมก่อเหตุ ซึ่งมีการชี้จุดไว้ในแผน และได้มีการแจ้งเตือนให้หน่วยเฝ้าระวัง
นอกจากนี้ นายจิรศักดิ์ ยังให้การรับว่า กลุ่มเครือข่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มนายจิรศักดิ์ ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ จังหวัดสงขลา มีจำนวน 17 คน จับกุมแล้ว 2 คน วิสามัญ 4 คน หลบหนี 10 คน รวมทั้งนายอัซมัน เป๊าะเลาะ ที่มีหมายจับ ป.วิ อาญา 18 หมาย คนเดียวด้วย
สำหรับคดีนี้มีพยานยืนยันว่า วันเกิดเหตุพบเห็น และได้มีการพูดคุยกับ นายอัซมัน เปาะเลาะ ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กับพวก 2 คน ออกจากที่เกิดเหตุก่อนเกิดระเบิดประมาณ 30 นาที โดยนายอัซมัน มีหมายจับไว้แล้ว ส่วนขบวนที่ร่วมกันก่อเหตุ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป
ด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาฯ จ.นราธิวาส ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านร่างกายไปแล้ว จำนวน 46 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 950,000 บาท เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 65 แบ่งเป็น กรณีเสียชีวิต จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 500,000 บาท กรณีบาดเจ็บ จำนวน 45 ราย เป็นเงิน 450,000 บาท และวันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวน 46 ราย ทั้งสิ้น 6,146,414 บาท
ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ ตำรวจให้ความสำคัญในการสืบสวนติดตาม รวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และฐานข้อมูลความเชื่อมโยงของคดี จนนำไปสู่การออกหมายจับ ต้องขอบคุณและชมเชย คณะทำงานที่สามารถคลี่คลายทั้ง 2 คดี โดยได้สั่งการขยายผล ติดตามผู้กระทำผิดที่ถูกออกหมายจับมาดำเนินคดี และเพิ่มมาตรการป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งขวัญกำลังใจ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตามข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี