"ผบ.ทร." เผยต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ กู้ซากเรือหลวงสุโขทัย เหตุจมลึก 40 เมตร

19 ธันวาคม 2565 ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ จากฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ไปยังท่าเรือน้ำลึกบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดูความคืบหน้าในการค้นหาลูกเรือ เรือหลวงสุโขทัย ที่สูญหายในเหตุการณ์เรืออับปาง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• "ทร." แจง กำลังพลปลอดภัยเหตุ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง ยัน ไม่พบผู้เสียชีวิต
• ผบ.ทอ. ส่ง เฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยกองทัพเรือ ค้นหากำลังพลเรือหลวงสุโขทัย
• “บิ๊กตู่” เกาะติดสั่งเร่งช่วยเหลือเหตุ “เรือหลวงสุโขทัย” อับปาง
• เปิดใจ กำลังพล "รล.สุโขทัย" ผู้รอดชีวิต กองทัพเรือไม่ยืนยันเสียชีวิต 3 นาย (มีคลิป)

พล.ร.ท.วิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาพที่ 1 เปิดเผยว่า วานนี้ (18 ธ.ค.) กระแสลมน่าแรงจะถึง 34 น๊อต คลื่นสูง 4 - 5 เมตร ซึ่งหลังจากเรือหลวงสุโขทัยเอียง เพื่อความปลอดภัยของลูกเรือทั้งหมด 106 นาย ได้สวมเสื้อชูชีพ ส่วนการเข้าไปช่วยเหลือยากลำบากมาก เพราะเรือที่เข้าไปช่วย เป็นเรือกระบุรี ที่เป็นเรือรบเหมือนเรือหลวงสุโขทัย ไม่ใช่เป็นเรือกู้ซ่อม การช่วยเหลือจึงค่อนข้างอันตราย

แต่ต้องเข้าไปช่วยคนก่อน ขณะนี้สามารถช่วยเหลือกำลังพลได้แล้ว 75 นาย คนล่าสุดในวันนี้ พบห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 ไมล์ จึงได้สั่งการให้ชุดประดาน้ำของทหารเรือ ขึ้นไปกับเฮลิคอปเตอร์ เพื่อค้นหาผู้ที่ลอยคออยู่ในทะเลอ่าวไทย 


 
 

พล.ร.อ.เชิงชาย พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อเยี่ยมกำลังพล มีนายแพทย์เชิญชาย ชยวัฑโฒ ผอ.โรงพยาบาลบางสะพาน นำเยี่ยมผู้บาดเจ็บจำนวน 15 นาย บาดเจ็บสาหัส 4 นาย โดย ผบ.ทร. ได้สั่งการให้นำผู้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 4 นาย ส่งต่อทางเฮลิคอปเตอร์ ไปโรงพยาบาลพระปกเกล้า และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สัตหีบ หลังจากนั้นได้เดินทางไปที่ศูนย์พักคอย  เพื่อเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และเข้าพักอยู่ภายในศูนย์จำนวน 60  นาย เพื่อให้กำลังใจ

พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า ได้มีโอกาสมาเยี่ยม เรือหลวงสุโขทัย ที่อับปาง มีกำลังพล 106 นาย ซึ่งได้ช่วยเหลือมาทั้งสิ้น 75 นาย ยังสูญหายในทะเลอีก 31 นาย กองทัพเรือได้ส่งเรือรบ อากาศยาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกองทัพอากาศส่งเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินร่วมออกค้นหา โดยกองเรือภาคที่ 1 ได้ส่งเรือยกพลขนาดใหญ่ พร้อมด้วยเรือเล็กออกมาร่วมค้นหาด้วย

นอกจากนี้ยังมีเรือหลวงภูมิพล และเรือกระบุรีเข้าไปช่วย ในขั้นต้นเมื่อเช้าที่ผ่านมา พบทหารที่ประสบภัย 1 นาย ใส่เสื้อชูชีพ สามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย และพยายามค้นหาช่วยเหลือกำลังพลให้มากที่สุด พร้อมทั้งมีการเยียวยา ซึ่งกองทัพเรือได้มีการจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือ ที่กองเรือยุทธการ เพื่อประสานงานกับครอบครัวของผู้ที่ยังสูญหาย

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า คงต้องดูว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร เบื้องต้นจากการสอบถามผู้รับบาดเจ็บทราบว่า มีน้ำเข้ามาในตัวเรือปริมาณมาก ทางเรือก็พยายามที่จะปั๊มน้ำออก ตามขั้นตอนในการปฏิบัติ แต่ด้วยสภาพคลื่นลมแรง ทำให้น้ำเข้ามามาก ระบบที่สำคัญ เช่น ระบบเครื่องไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์ และเครื่องจักร สูญเสียไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสุดท้าย ไม่สามารถที่จะสูบน้ำ ออกจากเรือได้ทัน จึงไม่สามารถรักษาเรือไว้ได้

ส่วนการกู้เรือที่จมจากจุดที่เรือจมลึก 40 เมตร  พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า ต้องดูว่า มีสภาพอย่างไร และต้องดูในเรื่องของน้ำมัน ซึ่งที่อยู่ในเรืออาจจะเกิดเป็นสภาวะแวดล้อม ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการนำเรือขึ้นมา ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ มีเทคนิคการใช้บอลลูน ที่ต้องสูบน้ำออกจากเรือก่อน และใช้บอลลูนดันให้ลอยขึ้นมาได้อย่างไร

สำหรับที่มีข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า จากการค้นหาร่วมกันขณะนี้ ยังไม่พบผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้สูญหาย 31 คนนั้น ยังคงเป็นผู้สูญหาย และได้ระดมกำลังค้นหาอยู่ในขณะนี้ ในระดับแรกทราบว่า เรือหลวงสุโขทัย และเรือกระบุรี ทำการลาดตระเวน จึงขออนุญาตจอดเรือที่บางสะพาน ซึ่งเรือ กระบุรีมาถึงก่อนเรือสุโขทัย ที่อยู่ตามมาห่างกัน 19 ไมล์ และมาทราบว่า เรือได้มีน้ำเข้าและเอียง จึงกลับออกไปช่วย แต่ก็ไม่สามารถที่จะพยุงเรือไว้ได้ เนื่องจากไม่ใช่เรือกู้ภัย 

ข่าว : ปริพรรห์ รชตธรรมกุล / สุรยุทธ ยงชัยยุทธ จ.ประจวบคีรีขันธ์