svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

รอดปาฏิหาริย์ พ่อเฒ่า 86 วูบติดบ่อโคลนในนา ต้องทนหนาว 18 ชม. กว่าจะมีคนมาช่วย

14 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รอดปาฏิหาริย์ พ่อเฒ่า 86 เส้นเลือดในสมองตีบกำเริบ วูบติดบ่อโคลนในนา ต้องทนหนาว 18 ชม. กว่าญาติพี่น้องจะออกปูพรมค้นหาจนพบ ช่วยมาได้หวุดหวิด

14 ธันวาคม 2565 เกิดเหตุระทึกขวัญที่ จ.อุดรธานี หลังหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลนาข่า ได้รับแจ้งเหตุ มีชายชราวูบในบ่อโคลน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ติดอยู่บ่อโคลนนานข้ามคืน ในพื้นที่นาของตัวเอง บริเวณท้ายหมู่บ้าน บ้านถ่อนน้อย ต.นาข่า อ.เมือง รับหลังแจ้งเจ้าหน้าที่จึงรุดออกไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุ นายอดุลย์ สารีบุตร ผู้ใหญ่บ้าน บ้านดงยวด ม.9 ญาติพี่น้องและชาวบ้าน ช่วยกันนำตัว นายคำจันทร์ เศวตวงษ์ หรือ ตาจันทร์ อายุ 86 ปี ผู้ประสบเหตุ ขึ้นมาจากโคลน ก่อนนำน้ำมาล้างโคลนออกจากตัว และนำเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม มาห่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และนำส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อช่วยเหลือเป็นการด่วน 

ท่ามกลางความโล่งใจของญาติ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา มีอากาศหนาวเย็นและมีลมแรง อุณหภูมิประมาณ 18 องศาเซลเซียส ถือว่าอันตรายมากหาก อยู่ในสภาพแบบนี้ แม้จะไม่ใช่ผู้สูงอายุก็ตาม แต่ตาจันทร์ กลับติดอยู่นานกว่า 18 ชั่วโมง  

 

นายคำจันทร์ เศวตวงษ์ หรือ ตาจันทร์ อายุ 86 ปี ผู้ประสบเหตุ

 

ภาพการช่วยเหลือ นายคำจันทร์ เศวตวงษ์ หรือ ตาจันทร์ อายุ 86 ปี ผู้ประสบเหตุ
 

บ่อโคลนดังกล่าว อยู่ห่างจากกระท่อมนาประมาณ 500 เมตร ห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 4 กิโลเมตร ชาวบ้านพบร่าง ตาจันทร์ นอนหงาย สวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้น สีกรมท่า ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีเคียวเกี่ยวหญ้าและรองเท้าแตะวางอยู่ริมบ่อโคลน ตามร่างกายเปื้อนโคลนทั้งตัว คาดว่าจะเกิดจากการดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง

สอบถามญาติทราบว่า ตาจันทร์ ออกจากมาตั้งแต่เช้าวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา และหายตัวไป ญาติพี่น้องออกตามหาตั้งแต่ 09.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. จนมาพบอยู่ในสภาพดังกล่าว  

 

บริเวณจุดที่เกิดเหตุ

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ของบ้านของ นางบัวจันทร์ คูณสมกัน หรือ มล อายุ 63 ปี ลูกสาวตาจันทร์ โดย นางบัวจันทร์ เล่าว่า พ่อย้ายไปอยู่กับครอบครัวใหม่ ที่บ้านถ่อนน้อยเพียง 2 คน แต่มีลูกหลานบ้านนั้นอยู่ดูแลไม่ห่างกันนัก พ่อยังแข็งแรงดี มักจะปั่นจักรยานมาที่นา เพื่อมาตัดหญ้าไปขาย มาหาปูหาปลา เพื่อไปทำอาหารกิน ช่วงเย็นก็จะกลับบ้านพักผ่อน

แต่เมื่อเช้าญาติโทรมาหาบอกว่า ตาจันทร์ยังไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งผิดปกติมาก กลัวว่า จะถูกดักปล้น หรือเป็นลมช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ด้วยอากาศที่หนาวเย็นมาก เกรงว่าจะได้รับอันตราย 

“จากนั้นญาติพี่น้องได้พากันออกมาตระเวนหาที่นา เพราะคิดว่าตาต้องไปเกี่ยวหญ้า เลยไปหาตรงป่าหญ้า และหาบริเวณสระน้ำ เผื่อตาจะลงไปล้างแขนล้างขา แล้วพลัดตกน้ำ ขณะที่พวกตนกำลังเตรียมอาหารไปส่งพวกญาติ มีคนวิ่งมาบอกว่า พบตาแล้ว ทุกคนก็วิ่งมารวมกัน สภาพของคุณตาเต็มไปด้วยโคลน ไม่ค่อยมีแรงที่จะพูดอะไร รู้สึกสงสารมาก เพราะว่าต้องอยู่ในสภาพแบบนั้น และอากาศหนาวเย็น ตอนนี้อาการก็ดีขึ้นแล้ว ส่วนสาเหตุคาดเกิดจากเส้นเลือดในสมองตีบ จึงเป็นลมล้มลง 

 

จุดเกิดเหตุ
 

ขณะที่ นายอดุลย์ สมจิตต์ อายุ 61 ปี ลูกเขยคนเล็ก เล่าว่า เมื่อเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. พวกตนออกตามหา ตาจันทร์ ประมาณ 20 คน โดยวิธีปูพรมค้นหา กระทั่งมีนายเยี่ยมที่ญาติกัน ไปพบเป็นคนแรก คิดว่า ตาจันทร์ อาจเป็นลมขณะออกไปหาปลาในบ่อโคลนนั้น และติดอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ 15.00 น. ของเมื่อวาน หมอบอกกว่า เส้นเลือดในสองตีบ ร่างกายด้านขวาไม่มีความรู้สึก อยากฝากเตือนลูกหลาน ที่บ้านมีคนแก่คนชรา อย่าให้ไปนาคนเดียว ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา จะไม่มีใครช่วยเหลือ ตอนนี้ ตาจันทร์ ปลอดภัยแล้ว เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว ต่อไปจะดูแลอย่างใกล้ชิด 

 

นายอดุลย์ สมจิตต์ อายุ 61 ปี ลูกเขยคนเล็กตาจันทร์

ข่าว : เศกสันติ กัลป์ยาณวิสุทธิ์ จ.อุดรธานี
 

logoline