ตร.พัทลุง เตรียมเรียก 4 ผู้ก่อเหตุขืนใจ ดญ.วัย 14 ใน รร.เข้ารับทราบข้อหา

19 พฤศจิกายน 2565 ความคืบหน้า กรณีนางเอ (สงวนนามสกุล) 49 ปี แม่ "น้องเฟิร์น"  วัย 14 ปี นักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง ว่า ลูกสาวถูกเพื่อนหลอกให้ไปในห้องน้ำโรงเรียนแล้วให้รุ่นพี่กระทำชำเรา จนน้องกลายเป็นเด็กซึมเศร้า ไม่กล้าเล่าให้แม่หรือครูทราบ จนกระทั่งผ่านไปนานถูกเพื่อนล้อว่า "เธอถูกอนาจารเลยต้องเก็บกดอดทน" สุดท้ายน้องเฟิร์นทนไม่ไหว โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากแม่ ให้รีบมารับกลับบ้าน และมีการเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพัทลุง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
๐ ผอ.โรงเรียน ขอเคลียร์แม่ ม.2 ถูกรุ่นพี่ขืนใจ เสนอจ่าย 2 แสน แลกถอนแจ้งความ
๐ แม่ใจสลาย! ลูกสาว ม.2 ถูกรุ่นพี่โรงเรียนประจำ ขืนใจในห้องน้ำ จนป่วยซึมเศร้า

ล่าสุด ช่วงบ่ายวานนี้ (18 พ.ย.) นายพันเทพ สุวรรณขันธ์ ศึกษาธิการจังหวัดพัทลุง ซึ่งได้รับมอยหมายจากปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่โรงเรียนโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยประชุมกับ ผอ.โรงเรียนฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟังแต่อย่างใด พร้อมเข้าดูจุดเกิดเหตุ ที่มีเพื่อนหญิงของผู้เสียหายจำนวน 3 ราย ฉุดลากผู้เสียหายเข้าไปยังห้องน้ำ ให้ชายรุ่นพี่กระทำการข่มขื่นคาชุดนักเรียน 

ซึ่งห้องน้ำดังกล่าวอยู่บริเวณด้านหลังอาคารโรงฝึกงาน มีสภาพเก่าและไม่ได้ใช้งานแล้ว และอยู่ในที่ลับตาผู้คน มีต้นไม้ขึ้นหนา หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ประตูห้องน้ำได้ถูกถอดออกมาทิ้ง พร้อมใส่ประตูใหม่เข้าแทนที

นายพันเทพ กล่าวว่า หลังจากฟังคำชี้แจงของ ผอ.โรงเรียน ก็พบว่า จากข่าวที่ออกไปนั้น มีการกระทำจริงภายในห้องน้ำของโรงเรียน ซึ่งสำนักงานศึกษาธิการก็ต้องดูแลทั้ง 3 ฝ่าย คือโรงเรียน ผู้เสียหาย และผู้กระทำเหตุดังกล่าว พร้อมรับฟังแต่ละฝ่าย แล้วนำกลับประมวลหาสาเหตุที่เกิดขึ้น และหามาตรการที่เข้มงวดมากกว่านี้ ในการดูแลความปลอดภัยของนักเรียน และโรงเรียนก็เป็นโรงเรียนที่ต้องรับนักเรียนกลุ่มเปาะบาง ในส่วนของผู้เสียหาย และผู้กระทำความผิด นั้นทางโรงเรียนไม่สามารถผลักนักเรียนจากโรงเรียน แต่ในทางคดีเมื่อถึงที่สุดต้องรับโทษ นักเรียนก็ต้องออกจากโรงเรียน สำหรับผู้เสียหายนั้นเบื้องต้นทางโรงเรียนยินดีเข้าช่วยเหลือเยี่ยวยา

นายพันเทพ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น ต้องเป็นหน่วยต้นสังกัดคือ สำนักบริหารการศึกษาพิเศษ ต้องว่าไปตามต้นสังกัดพิจารณา แต่ทราบว่าขณะนี้ ได้รายงานเหตุการณ์ที่ขึ้นไปยังต้นสังกัดแล้ว ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ส่วนเด็กนักเรียนก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย
 

ขณะที่วันนี้ หลังจากที่ เด็กหญิงผู้เสียหาย เข้าพบสหวิชาชีพ นานหลายช่วงโมง หลังให้ปากคำเสร็จ แม่และน้องผู้เสียหาย เริ่มมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น โดยน้องบอกว่า หลังจากที่เก็บกดอับอาย มานานหลายเดือน จนไม่กล้าพูดอะไร วันนี้สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น แต่ยืนยันจะไม่ขอเรียนโรงเรียนนี้อีก ขณะที่แม่ก็เช่นกัน ได้คลายกังวล หลังจากถูกกดดันให้ถอนแจ้งความ ยืนยันจะเดินหน้าทวงความยุติธรรมให้ลูก

ทั้งนี้ในช่วงสาย ครูที่ปรึกษาได้เข้ามาเยี่ยมเด็กที่บ้านพัก เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมเผยว่า ผู้ก่อเหตุได้กลับมาเรียนตามปกติ ส่วนการย่ำยีและเหตุการณ์ที่เกิดไม่ขอเปิดเผย

ขณะที่ ส่วนพนักงานสอบสวน ร้อยเวรเจ้าของคดี ยังเร่งสรุปสำนวนการสอบสวน พร้อมเปิดเผยว่า ในจุดที่เกิดเหตุบริเวณหลังอาคารโรงฝึกงานของโรงเรียนที่ห้องน้ำ จะลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในวันจันทร์ ที่จะถึง นี้ 

พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ เกตุขาว ผกก.สภ.เมืองพัทลุง เผยว่า คดีนี้ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การสืบสวนสอบสวนคดีจะต้องโปร่งใส เป็นยุติธรรม จึงได้ตั้งคณะกรรมการคณะทำงานด้านสอบสวนขึ้น 1 ชุด จากการส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา พบมีร่องรอยการถูกระเมิดทางเพศจริง ซึ่งในวันที่ 21 พ.ย. นี้ ทางโรงพยาบาลพัทลุงจะนัดให้นักเรียนคนดังกล่าว ไปพบกับแพทย์สูตินริเวช รพ.พัทลุง เพื่อตรวจร่างกายอีกครั้ง เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินการดำเนินคดี 

พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า ส่วนการสอบปากคำผู้เสียหาย ขณะนี้เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งในสัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวน จะได้เรียกตัวผู้กระทำความผิดทั้ง 4 ราย มารับทราบข้อกล่าวหา ในฐานความผิดร่วมกันกระทำชำเราผู้อื่นที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี ที่มิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเข้าข่ายข้อหารุมโทรม ซึ่งข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป