5 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณีที่คณะกรรมการที่ปรึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์จากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ( FAO ) ได้ลงพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ในการตรวจประเมินพื้นที่ ระบบการเลี้ยงควายปลักในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย เพื่อพิจารณาให้การรับรองเป็นมรดกโลกทางการเกษตร
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจาก FAO ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างไทยกับ FAO ในการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจัดทำเอกสารเสนอ GIAHS เพื่อเสนอขอรับการรับรองเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร โดยได้เสนอให้จัดทำเอกสารข้อเสนอพื้นที่ ระบบการเลี้ยงควายปลักในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย เพื่อพิจารณา ให้การรับรองเป็นมรดกโลกทางการเกษตรต่อไปนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงโรม (สปษ.โรม) ได้รับแจ้งจากนาย Yoshihide ENDO ฝ่ายเลขานุการมรดกโลกทางการเกษตรว่า ข้อเสนอโครงการ การเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง และ จ.สงขลา ผ่านความเห็นชอบจากกรรมการที่ปรึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ (Scientific Advisory Group: SAG) ของ FAO และได้ประกาศเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร (Global Important Agricultural Heritage Systems หรือ GIAHS) ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และนับเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร แห่งแรกของประเทศไทย
ทั้งนี้ โดยช่วงวันที่ 4-8 ตุลาคม 2565 นี้ ทางด้าน Prof. Zekri Slim ชาวอิสราเอล เป็นผู้แทนคณะกรรมการ SAG เดินทางตรวจสอบพื้นที่จริง ของพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย และให้ข้อเสนอแนะประเทศไทยปรับแก้ไขเอกสารเพิ่มเติม ก่อนยื่นเอกสารข้อเสนอเพื่อเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาในช่วงวันที่ 2 - 4 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เกษตรกรเจ้าของควายน้ำ หรือ ควายปลักในพื้นที่ทะเลน้อย ต่างดีใจ โดยบอกกว่า มรดกโลกทางการเกษตร เป็นเรื่องที่น่าเรียนรู้ ซึ่งเชื่อว่า คุณภาพของควายน้ำคงจะดีขึ้นหลังจากนี้ เพราะที่ผ่านมา เกษตรกรผู้เสี้ยงควายน้ำมักจะประสบกับปัญหาการเลี้ยงมาตลอด ยิ่งในช่วงน้ำหลากคือช่วงที่วิกฤตสุด เพราะควายไม่มีคอกพัก ต้องอยู่ในน้ำตลอดเวลา ทำให้เสี่ยงต่อการตาย ซึ่งหากเป็นมรดกโลก เชื่อว่าหลายฝ่ายหลายหน่วยงานจะให้ความสำคัญ สามารถทำให้ควายน้ำทะเลน้อย ที่เป็นมรดกตกทอด มาจากรุ่นสู่รุ่น จะได้มีความยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ข่าว : ไสว จ.พัทลุง