จากกรณี หนุ่มนิรนาม ถูกฆาตกรรมอำพราง โดยถูกเชือกรัดคอ จนลิ้นจุกปาก โดยคนร้ายยังได้มัดเท้า-มัดขา ก่อนนำศพมาโยนทิ้งป่าละเมาะ บริเวณเลียบคลองหลวงแพ่ง หมู่ 9 ตำบลบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ร่างของผู้เสียชีวิตเริ่มมีสภาพศพเน่าแล้ว และ ยังไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน คาดว่า เหยื่อน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 2-3 วัน
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว , ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค1 ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยง และหาตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหคุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสของผู้เสียชีวิต ว่าเป็นใคร มาจากไหน ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิต ต้องรอผลจากนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี สมุทรปราการ ทำการตรวจสอบอีกครั้ง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด ทีมข่าวสำนักข่าวเนชั่น ได้เกาะติดเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมอำพรางซาดิตส์ดังกล่าวอย่างกระชั้นชิด เบื้องต้นขณะนี้ทราบชื่อผู้เสียชีวิตแล้วคือ นายมรกธวัช อายุ 37 ปี อาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง ทั้งนี้ เมื่อทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวญาติ และผู้เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบสภาพศพ และเชิญตัวไปให้ปากคำ เพื่อสืบหาเบาะแสของคดีฆาตกรรมอำพรางดังกล่าว โดยทางญาติๆ ได้ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความบาดหมางกันระหว่างบุคคลรายหนึ่ง ซึ่งได้เข้ามาช่วยงานกับผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม จากแนวทางการสืบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า บุคคลที่ลงมือก่อเหตุ ฆาตกรรมในครั้งนี้ คือ นายนิวส์ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้ตาย และเป็นลูกน้องที่ร่วมทำงานด้านรับเหมาก่อสร้างด้วยกัน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ยังพบด้วยว่า สาเหตุที่นายนิวส์ ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากโกรธแค้นเกี่ยวกับปัญหาทางด้านการเงิน ที่ผู้ตายยังไม่ให้ ซึ่งมีจำนวนเงินมากพอสมควร โดยในวันก่อเหตุได้มีการนัดเจรจาพูดคุย เพื่อตกลงเรื่องเงินดังกล่าว แต่ผู้ตายได้ขอผัดผ่อนไป จึงทำให้นายนิวส์ เกิดความโมโห และลงมือก่อเหตุฆ่าผู้ตาย ด้วยการใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิต และใช้เชือกมัดเท้า-มัดขา ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าละเมาะ ย่านบางพลี ดังกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทราบตัวคนร้ายแล้ว จึงได้กระจายกำลังออกติดตามทันที่ โดยเฉพาะบ้านเพื่อนสนิท บ้านญาติ และที่พัก เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน แม่ของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า ทางครอบครัวได้ไปดูศพที่นิติเวชมา และยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นลูกชาย คือนายมกรธวัช ก้องวัฒนพงศ์ หรือโต้ง อายุ 37ปี ทำอาชีพรับเหมาต่อเติมบ้าน ก่อนหน้าที่จะหายตัวไปได้โทรไปหาลูกชายๆ บอกไม่ค่อยสบาย และหลังจากนั้นแม่ก็ติดต่อไม่ได้ 3-4วันแล้ว ส่วนหายไปตรงไหนยังไง แม่ไม่รู้ เพราะแม่อยู่คนละที่
ส่วน น้องชายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า จำรอยสักแขนขวา และรอยแผลเป็นแขนซ้ายของพี่ชายได้ ซึ่งวันที่ 25 ตุลาคม ยังโทรศัพท์หากันอยู่ มาวันที่ 26 ตุลาคมยังแชทหากัน หลังจากนั้นก็ติตต่อไม่ได้อีก ที่ผ่านมาพี่ชายก็มีความขัดแย้งบ้างทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัว
ขณะที่ อาของผู้เสียชีวิต บอกว่า ก่อนหน้านี้ ได้พูดคุยกับผู้เสียชีวิต เขามีเรื่องเครียด คือ เรื่องเงินที่หมุนไม่ทัน ต้องเอาจ่ายลูกน้อง ซึ่งมีลูกน้องประมาณ 5 คน แต่ไม่ขอตอบว่าเคยทะเลาะหรือมีปากเสียงกับลูกน้องหรือไม่ เพราะกลัวส่งผลต่อรูปคดี
แต่ยืนยันว่า มีปัญหาขัดแย้งกันอยู่บ้างในธุรกิจที่ทำ และที่สำคัญคือ ทรัพย์สินหายไปหมดเลย ทั้งรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ มือถือ
เมื่อถามว่า ส่วนมากคนที่อยู่ใกล้ๆผู้เสียชีวิต จะเป็นใคร อา ตอบว่า ส่วนมากก็จะอยู่กับลูกน้อง ใช้ชีวิตปกติ ไม่ค่อยไปไหนทำงานเสร็จก็มืดแล้ว ตอนนี้สามารถติดต่อลูกน้องเขาส่วนหนึ่ง แต่ก็มี อีก 1คนที่ติดต่อไม่ได้ ซึ่งเป็นคนไทย เพิ่งรับเข้ามาทำงานได้ 15 วัน ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า ถ้าขนาดฆ่ากันน่าจะมีความแค้นอยู่ แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร ก็อยากให้จับคนร้ายได้เร็วๆ เพราะยังช็อกกับเหตุการณ์อยู่
ทั้งนี้จากการตรวจสอบ เฟซบุ๊กของผู้เสียชีวิต ซึ่งใช้ชื่อ มกรธวัช ก้องวัฒนพงศ์ เป็นภาษาอังกฤษ ก็ไปเจอข้อความในโพสต์สุดท้าย ที่เขียนว่า ‘ลาก่อนสมุทรปราการ เจอกันหาดใหญ่’ ข้อความนี้ถูกโพสต์เมื่อ3วันที่แล้ว ก็คือประมาณวันที่ 27 ต.ค. โดยอา ผู้เสียชีวิตยืนยันว่า ไม่น่าจะใช่เจ้าตัวโพสต์ เพราะ ผู้เสียชีวิต ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับหาดใหญ่ เลย