คลี่ปมสังหาร "เสี่ยขายมือถือ" พบมือปืนเคยถูกจับ คดียาบ้า 2 แสนเม็ด

จากกรณีนายพนม ทิพย์รัตนมงคล อายุ 40 ปี นักธุรกิจซื้อขายโทรศัพท์มือถือ ที่ตลาดต้นตาลขอนแก่น ถูกยิงเสียชีวิตริมถนนทางเข้าสนามบินขอนแก่น ช่วงก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถยนต์มาคนละคันกับเพื่อนอีก 2 คน ในลักษณะนัดหมายพูดคุยอาจจะเป็นเรื่องธุรกิจหรือเรื่องส่วนตัว แล้วตกลงกันไม่ได้ หนึ่งในคนร้ายจึงบันดาลโทสะ และใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย แต่ผู้ตายพยายามวิ่งหลบหนีแต่สุดท้ายไม่รอด หลังเกิดเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว)

ล่าสุด (9 ต.ค. 65) รอง ผกก.สืบสวน สภ.บ้านเป็ด ระบุ รู้ตัวมือยิงเสี่ยโทรศัพท์มือถือแล้ว  ตรวจสอบเป็น อดีตเยาวชน เคยถูกจับคดียาบ้า 2 แสนเม็ด และหลบหนีจากสถานพินิจ ก่อนตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ยาบ้าที่ลาว ออเดอร์รถหรูส่งข้ามโขง คนตายขัดขืน ไม่ยอมร่วมมือ จึงถูกฆ่าทิ้ง 

ขณะที่นายสุรชัย ทิพย์รัตนมงคล อายุ 67 ปี บิดาผู้ตายพร้อมภรรยาคนตาย และญาติพี่น้องเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับการตายของนายพนม พร้อมกล่าวว่า มีลูกทั้งหมด 4 คน นายพนมหรืออาร์ต เป็นคนที่  2  และเป็นคนที่มีอัธยาศรัยดี เป็นที่รักของเพื่อนฝูง  และเพิ่งหารือกันในครอบครัวถึงการมาเปิดร้านขายและซ่อมโทรศัพท์มือถือที่ตลาดประตูน้ำ  โดยลูกชายกับลูกสะใภ้เปิดร้านและดำเนินกิจการเอง เพราะลูกชายเป็นช่างซ่อมมือถือด้วย

“เหตุการณ์ที่ลูกชายถูกยิงตาย พ่อไม่รู้รายละเอียด เพราะไม่เคยเห็นหรือได้ยินว่าลูกชายมีปัญหาหรือขัดแย้งกับใคร หนี้สินก็มีแค่เรื่องผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ ส่วนเรื่อวงชู้สาวก็ไม่เคยมี จึงไม่รู้สาเหตุว่าลูกชายถูกยิงตายด้วยสาเหตุใด้ และใครเป็นคนลงมือฆ่าพ่อก็ไม่รู้ และไม่สงสัยใครเลย”นายสุรชัย  กล่าว

ส่วนของเพื่อนสนิทของลูกชายเท่าที่ทราบ ก็ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งและผิดใจกันแต่อย่างใด แต่หากว่าลูกชายทำธุรกิจผิดกฎหมายแล้วปิดบังครอบครัว จนถูกตามมาฆ่าทิ้งนั้น  เป็นเรื่องพ่อและคนในครอบครัวไม่ทราบมาก่อนเลย ขอฝากให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ รองผกก.สืบสวนสภ.บ้านเป็ดว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบจากโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย จนทราบว่ามีคนโทรติดต่อกับคนตายในช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมาแล้วก็มาเกิดเหตุในช่วงเช้าตรู่  จึงได้ติดตามตัวเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรหาคนตาย และนำตัวมาสอบสวน

“การสอบสวนพยาน ที่เป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์รายนี้ ทำให้ทราบว่า ได้พบกับกลุ่มมือปืน 3 คน ซึ่งติดต่อซื้อรถยนต์จากคนตาย จากนั้นฝ่ายมือปืนได้ทำการล่อลวงนายพนมออกมาหา เพื่อเจรจาซื้อขายรถยนต์กัน  โดยฝ่ายมือปืนพยายามจะเอายาเสพติดให้ฝ่ายคนตายนำมาปล่อยขายด้วย  แต่ผู้ตายไม่ยินยอม จึงเกิดการโต้เถียงกัน และผู้ตายก็วิ่งลงจากรถของฝ่ายมือปืน แล้วก็ถูกมือปืนไล่ยิงจนตายข้างถนนขณะนี้ตำรวจได้คลิปเสียงของมือปืน ที่โทรหาพยาน แจ้งว่า ฆ่านายอาจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  และเสียงของคนที่บอกว่าฆ่าคนตายนั้น ชื่อนายโก้ อายุ 19 ปี เป็นอดีตเยาวชนที่เคยถูกจับคดียาเสพติด 200,000เม็ดเมื่อปี 2564 และขณะถูกจับคดียาเสพติดอายุเพียง 18 ปี  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งตัวเข้าดำเนินคดีตามกฎหมายที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดขอนแก่น  แล้วก่อเหตุหลบหนีออกจากสถานพินิจฯข้ามไปอยู่ที่ สปป.ลาว กลายเป็นพ่อค้ายาเสพติด และสั่งให้พรรคพวกในฝั่งไทย หารถยนต์ตามออเดอร์ที่ต้องการส่งข้ามโขงไปให้ยัง สปป.ลาว ซึ่งเชื่อว่าออเดอร์รถยนต์ที่กลุ่มมือปืนสั่งนั้น มีทั้งสั่งซื้อและก่อเหตุลักทรัพย์แล้วส่งข้ามโขงไปให้ที่สปป.ลาว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวกลุ่มคนที่ลงมือฆ่านายพนมหมดแล้ว รวม 3 คน อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวนและแจ้งข้อหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย”พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าว

คลิปจากกล้องวงจรปิด