15 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมชลประทาน ได้จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ติดตามโครงการบรรเทา อุทกภัย เมืองชัยภูมิ (ระยะที่ 1) จ.ชัยภูมิ ซึ่งอำเภอเมือง จ.ชัยภูมิ ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนบน มีลักษณะเป็นที่ราบเชิงเขา ทำให้ฤดูฝนมักมีน้ำหลากจากภูเขาลงพื้นราบ โดยไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ จึงเกิดอุทกภัยเป็นประจำ
ทั้งนี้ โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ที่มีลักษณะเป็นแอ่งรับน้ำ จึงมักถูกน้ำท่วมขังในพื้นที่ประมาณ 30,000 ไร่ หรือร้อยละ 90 ของพื้นที่อำเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งกรมชลประทานจึงได้เดินหน้าแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง เมืองชัยภูมิ ด้วยโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ ระยะที่ 1 ทั้งเพิ่มศักยภาพคลองผันน้ำลำปะทาว -สระเทวดา รวมถึงเพิ่มประตูระบายน้ำ เพื่อยกระดับการแก้ปัญหาน้ำท่วมตัวเมือง ช่วยลดพื้นที่เกษตรกรรมเสียหายจากน้ำท่วมได้ถึงปีละ 2 หมื่นไร่
โดย "นายพงศ์กร กำแหง" ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างขนาดกลางที่ 6 เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้ศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาแหล่งน้ำ และการบริหารจัดการน้ำลำปะทาวและห้วยยางบ่า เพื่อใช้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งจากการศึกษาพบว่า น้ำที่ไหลผ่านเข้าตัวเมือง จ.ชัยภูมิ รวมประมาณ 325 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่มีศักยภาพการระบายน้ำเพียง 145 ลบ.ม.ต่อวินาที จึงมีแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แบ่งออกเป็น 4 ระยะ
สำหรับโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ระยะที่ 1 นั้น มีแผนปฎิบัติงานประกอบด้วย การขุดขยายคลองผันน้ำลำปะทาว ถึงแก้มลิงสระเทวดา ยาว 8.45 กิโลเมตร สามารถระบายน้ำได้ 150 ลบ.ม.ต่อวินาที พร้อมด้วยประตูระบายน้ำ 3 แห่ง การขุดขยายคลองเชื่อมลำปะทาว –ห้วยดินแดง ยาว 1.33 กิโลเมตร และปรับปรุงคลองเดิมให้ระบายน้ำได้ 50 ลบ.ม./วินาที พร้อมประตูระบายน้ำ 1 แห่ง และสร้างประตูระบายน้ำและอาคารประกอบ ในลำน้ำเดิมอีก 6 แห่ง ส่วนโครงการอีก 3 ระยะที่เหลือ อยู่ในขั้นตอนศึกษาความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ในการที่จะป้องกันบรรเทาอุทกภัยในตัวเมืองชัยภูมิ ต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพในทั้ง 4 แผน ซึ่งโครงการผันน้ำระยะที่ 1 ดำเนินการไปแล้ว 25% คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2568 ส่วน 3 ระยะ ต้องดำเนินการต่อจากนั้นประมาณ 4 ปี ซึ่งโครงการไหน ที่สามารถดำเนินการได้ก็จะเร่งรีบดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว
จากนั้น ได้ลงพื้นที่ไปพบปะพูดคุยกับผู้ได้รับผลกระทบ จุดที่น้ำท่วมสูงที่สุด บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล และโรงพยาบาลชัยภูมิ และรับฟังปัญหาเกษตรกรในพื้น