เพื่อนบ้านสงสาร พ่อจำใจฆ่าลูกคลั่ง แม้แต่แม่ป่วยติดเตียงยังถูกทำร้าย

ความคืบหน้า คดีที่พ่อ จ.ร้อยเอ็ด สุดทนฆ่าลูกตายที่ป่วยเป็นจิตเวช คลั่งขอเงินซื้อเหล้าไม่ได้ และไล่ฟัน สุดท้ายถูกพ่อตีหัวเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อไม่หลบหนียอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยอมรับพรั้งมือฆ่าลูก เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (12 ก.ย.)  (อ่านข่าว) 

 

ล่าสุดวันนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีที่บ้านเกิดเหตุ  บ้านเลขที่ 110 ม. 11 บ.แจ้งก้อน ต.ม่วงลาด อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ปรากฏว่าไม่พบเจ้าของบ้าน โดยนางเสงี่ยม พระกระนวน อสม. เพื่อนบ้าน กล่าวว่า นายอ่ำ พรหมเลิศ อายุ 75 ปี ผู้ก่อเหตุ ยังคงถูกควบคุมตัว อยู่ที่ สภ.ม่วงลาด และล่าสุด ตำรวจได้มารับตัวนางทองคำ พรหมเลิศ อายุ 80 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ไปสอบสวนปากคำในฐานะพยาน 

 

นางเสงี่ยม กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายทองศร พรหมเลิศ อายุ 52 ปี ผู้ตาย เป็นผู้ป่วยจิตเวช ต้องกินยาตลอดเวลา และมักมีอาการรคลุ้มคลั่งทำร้ายคน และทำร้ายทุบตีพ่ออยู่บ่อยครั้ง และอาละวาดเป็นประจำ โดยชอบทำร้ายคนในบ้านทุกคน แม้แต่แม่ที่ป่วยติดเตียง ก็ยังเคยถูกทำร้าย จนพ่อต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา และหากไม่ทำร้ายคนในบ้าน ก็ทุบทำลายข้าวของ พังบ้าน ทุบทำลายประตูหน้าต่าง และทุบกระจกบ้าน แทบไม่เหลือ  จนเป็นที่เอือมระอา แต่ก็ไม่มีทางแก้ปัญหาต้องทนมาโดยตลอด 

ขณะที่ นายสมจิตร ยิ่งกำแหง น้าผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เหตุทำร้ายร่างกายคนในบ้านเกิดแทบวัน บ่อยครั้งอาละวาด เอาแม้แต่ขวดน้ำทุบหัว พ่อ และแม่ และทำร้ายร่างกายคนในบ้าน ทุกครั้งที่คลุ้มคลั่ง จนเมืองระอา แต่ไม่มีทางออก เหตุที่เกิดขึ้นถ้าพ่อไม่ฆ่าลูก ก็คงถูกลูกฆ่าตาย ถ้าไม่ตายก็คงไม่จบ เพราะทำร้ายพ่อ - แม่ แทบทุกวัน บางทีก็วันเว้นวัน ในที่สุดคงทนไม่ไหว เพราะมีอาการทางจิต และยิ่งเมื่อเมาเหล้า ยิ่งจะคลุ้มคลั่ง  ก่อนเกิดเหตุ พ่อคงเหลือทน เพราะจะลงมือทำร้ายทั้งพ่อ และแม่ที่ป่วยติดเตียง เหตุที่เกิดขึ้นสงสารแต่พ่อ ที่สุดท้ายจะต้องมาติดคุก 

 

 

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.ม่วงลาด ปรากฏว่า ทางด้านร.ต.อ.ทวนทอง ศิริจักรหงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ม่วงลาด กำลังสอบสวนปากคำ นางทองคำ พรหมเลิศ แม่ผู้ตาย ซึ่งป่วยติดเตียงในฐานะพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อเร่งสรุปสำนวนคดีที่เกิดขึ้น โดยที่ก่อนหน้านั้น มีเจ้าหน้าที่จากยุติธรรมจังหวัด ลงมาสอบถามรายละเอียดและข้อเท็จจริง เพื่อหาทางช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมกับผู้ก่อเหตุ 

 

พนักงานสอบสวนให้รายละเอียดว่า ยังจะมีการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นพ่อผู้ตายไว้สอบสวนปากคำ รวมทั้งเรียกสอบพยานแวดล้อมที่เกิดเหตุ ให้เสร็จภายในวันนี้ ยังไม่มีการให้ประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราว โดยหลังจากสอบสวนปากคำ และพยานแวดล้อมแล้ว ก็จะเร่งสรุปสำนวนให้เสร็จภาย แล้วส่งอัยการสั่งฟ้องให้ทันในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) ส่วนการประกันตัว ให้ญาติยื่นเรื่องประกันตัวในชั้นศาล ในวันพรุ่งนี้ต่อไป สำหรับศพผู้เสียชีวิต ยังคงอยู่ที่ รพ.ร้อยเอ็ด และรอญาติไปรับกลับมาบำเพ็ญกุศล ที่วัดในหมู่บ้านต่อไป