วอนช่วย “สาวถูกหลอกค้ากาม“ ที่ดูไบ ซ้ำเรียกค่าไถ่ กักขังหน่วงเหนี่ยว

จากกรณีนายประสิทธิ์ ศรีบุญจันทร์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 4 บ้านห้วยยาง ต.หนองช้าง อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ พี่ชายนางสาวอภิญญา ศรีบุญจันทร์ อายุ 40 ปี (ผู้เสียหาย) พร้อมด้วย นายกอบโชคชีพ โพธิสอน รองประธานสภา อบต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะผู้นำชุมชน ได้เข้าร้องทุกข์ ขอความช่วยเหลือ ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ กับ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า น้องสาวที่โดนหลอกไปทำงานที่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา

โดยมี นางสาว กัลป์นิกา หรือต่าย เพื่อนร่วมงานแห่งหนึ่งเป็นผู้ติดต่อ ได้พูดจาเกลี้ยกล่อมชักชวนไปทำงานร้านนวนแผนไทย ที่เมืองดูไบ เรื่องค่าใช้จ่ายจะเป็นคนออกให้ก่อน เมื่อไปถึงเมืองดูไบ ได้ทำงานแล้วจึงจะค่อยหักค่าใช้จ่าย จากที่ทำงานได้ รวมค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายทำวีซ่า รวมค่าเดินเรื่องทั้งหมด 130,000 บาท แต่เมื่อเดินทางไปถึง นครดูไบ กลับไม่เป็นดังที่ตกลงกันไว้ เมื่อถึงเวลาทำงานให้รับแขกโดยบังคับให้ขายบริการทางเพศกับแขกที่มาเที่ยว เมื่อผู้เสียหายปฏิเสธรับแขกก็จะถูกแยกขังไว้ในตึก พร้อมข่มขู่จะฆ่าให้ตาย หากไม่ทำงานขายบริการทางเพศ แต่ถ้าหากอยากกลับประเทศไทย ให้ญาติโอนเงิน จำนวน 130,000 บาทมาไถ่ตัว นางสาวอภิญญา ผู้เสียหาย จึงได้แชตไลน์บอกลูกสาววัย 18 ปี ซึ่งเป็นคนพิการโรคกระดูกทับเส้นประสานไขสันหลัง ตั้งแต่อายุ 1 ขวบครึ่ง เพื่อให้ญาติพี่น้องโอนเงิน จำนวน 130,000 บาทมาไถ่ตัวตามที่ผู้คุมบอก

ล่าสุด (28 ส.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านห้วยยาง หมู่ 4 ต.หนองช้าง อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อสอบถาม และรับเรื่องร้องทุกข์กับ นายประสิทธิ์ ศรีบุญจันทร์ ว่าหลังจากน้องสาวแชตไลน์ติดต่อขอความช่วยเหลือมาตนได้ไปกู้หนี้ยืมสินจากญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน เพื่อนำเงินมาโอนให้กับน้องสาว โดยผ่านบัญชี น้องสุภานิดา ชาวัน บุตรสาวของ นางสาวอภิญญา น้องสาว เป็นจำนวน จำนวน 130,000 บาท เข้าบัญชี น้องสาวเมื่อวันที่ 12 และ 13 สิงหาคม 2565 แต่เมื่อโอนเงินให้ครบจำนวนแล้ว กลับติดต่อน้องสาวไปไม่ จึงมีความร้อนใจและเป็นทุกข์หนักเพราะเกรงว่าน้องสาวจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงตัดสินใจไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สามชัย อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเดินทางเข้าร้องทุกข์ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์เพื่อของความช่วยเหลือ

นายประสิทธิ์ ยังได้บอกอีกว่า เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายแรงงาน กระทรวงแรงงาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. มาแจ้งเรื่องให้ทราบว่า ขณะนี้ กระทรวงแรงงาน ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ว่าเมื่อวันที่ 17 ส.ค.2565 น้องสาวของตนพร้อมกับหญิงไทย รวม 6 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ Khalfah เขตซาบีย่าห์ เมืองอาบูดาบี จับกุมตัวเอาไว้และถูกนำตัวไปกักขังที่เรือนจำกลางเมืองอาบูดาบี เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ค้าประเวณี” ตนจึงอยากจะขอความช่วยเหลือ วิงวอนให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวเพื่อเป็นช่องทางสื่อไปถึง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เร่งช่วยเหลือน้องสาวตนและหญิงไทยที่ถูกจับรวม 6 คน ได้กลับมาประเทศไทยอย่างปลอดภัยโดยเร็ววัน

ส่วน นางสาว สุภานิดา ชาวัน อายุ 18 ปี บุตรสาวผู้เสียหาย น้องพิการป่วยด้วยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ตั้งแต่วัย 1 ขวบครึ่ง เปิดใจกับสื่อว่า คิดถึงแม่ อยากให้แม่กลับมาเร็ว กลับมาอยู่กับครอบครัว ไม่อยากให้แม่ได้รับอันตราย ไม่อยากให้แม่โดนจับ

ขณะที่ คุณปลา (นามสมมุติ) ชาวจังหวัดอุดรธานี เป็นอีกหนึ่งใน 8 หญิงสาวชาวไทยที่ถูกหลอกให้ไปขายตัวที่รัฐราสอัลไคมาห์ เมืองอาบูดาบี เป็นหญิงไทยเพียงคนเดียว ที่โชคดี เธอสามารถหลบหนีจากบ้านพักที่กักตัวหญิงไทยไว้เพื่อค้าประเวณี ไปขอความช่วยเหลือสถานเอกอัครราชทูตอาบูดาบี จนสามารถเดินทางกลับบ้านเกิดได้เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา เปิดเผยช่วงเวลาอันเลวร้ายที่ตกอยู่ในขุมนรกดูไบให้ฟังเตือนหญิงไทยจะไปทำงานต่างประเทศให้ศึกษาดูดีๆก่อนว่าจริงหรือไม่จริง