svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ระทึก “เรือเร็วกึ่งสปีดโบ๊ต” ชน “เรือหางยาว” กลางแม่น้ำบางปะกง สูญหาย 1

21 สิงหาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ระทึก ! “เรือเร็วกึ่งสปีดโบ๊ต” ชนกับ “เรือหางยาว” กลางแม่น้ำบางปะกง สูญหาย 1 ราย เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหา แต่ยังไร้วี่แวว

วานนี้ (21ส.ค.65)  ร้อยตำรวจเอกประสิทธิ์ ธงสี รอง.สว. (สอบสวน) สภ.บ้านสร้าง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเรือชนกันกลางแม่น้ำบางปะกง มีผู้สูญหายภายในน้ำเป็นชาย 1 ราย หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา

 

ระทึก “เรือเร็วกึ่งสปีดโบ๊ต” ชน “เรือหางยาว” กลางแม่น้ำบางปะกง สูญหาย 1

 

เบื้องต้นจากการตรวจสอบ บริเวณริมแม่น้ำ ท่าข้าวศิริธงชัย ม.1 ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี พบเรือคล้ายเรือสปีดโบ๊ทสีขาว(เรือหาปลาญี่ปุ่น) จอดอยู่ริมแม่น้ำ ในสภาพเสียหายเล็กน้อย บริเวณด้านหน้าของเรือ และพบผู้ที่โดยสารในเรือมีจำนวน 3 ราย และสุนัขอีก 1 ตัว ส่วนเรืออีก 1 ลำ ได้รับความเสียหายพังยับเยิน แตกเป็นชิ้น และมีผู้สูญหายเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสราวุฒิ จิตรภักดี

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญเจ้าของเรือ พร้อมผู้โดยสารที่เดินทางมากับเรือ มาสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเชิญตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บ้านสร้าง ส่วนผู้สูญหายนั้นยั้งไม่มีใครพบร่าง จึงได้มีการประสานทีมชุดประดำน้ำจากหน่วยกู้ภัยเข้าทำการค้นหา

 

ทั้งนี้ บริเวณที่เกิดเหตุ ยังพบญาติผู้สูญหายทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวหนึ่ง มาลาเล็ก เป็นภรรยาผู้สูญหาย โดยได้ร้องไห้ พร้อมตะโกนเรียกชื่อหาสามีอย่างน่าเวทนา โดยมีบรรดาญาติๆพยายามโอบกอด และปลอบขวัญอยู่ไม่ห่าง หลังจากนั้นนางสาวหนึ่ง ได้นำธูปพร้อมเหล้าขาว 1 ขวดและบุหรี่ 1 ม้วน มาจุดขอขมา เพื่อเปิดทางในการค้นหาเจ้าที่เจ้าทางก่อนที่บรรดาอาสากู้ภัยจะลงเรือทำการค้นหา

 

ระทึก “เรือเร็วกึ่งสปีดโบ๊ต” ชน “เรือหางยาว” กลางแม่น้ำบางปะกง สูญหาย 1

 

จากการสอบถามนายพรชัย นวลสุวรรณอายุ 39 ปี ผู้ที่ขับเรือมาพร้อมกันกับผู้สูญหายได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ตนจึงได้ชวนกับผู้สูญหายไปขับเรือเล่นกันแถวบางกะเบา หลังจากนั้นจึงได้ขับเรือมาคนละลำกับผู้สูญหายก่อนที่จะมีการพุ่งชนกับเรือคู่กรณี หลังจากนั้นตนได้นำเรือของตนไปจอดที่ริมตลิ่งก่อนที่จะว่ายน้ำออกมาค้นหาผู้สูญหายแต่ก็ไม่พบ

 

ด้านนางสาวเจนจิรา พิมพ์วงษ์ อายุ 27 ปี ภรรยานายพรชัยได้ กล่าวว่า ก่อนหน้าเมื่อช่วง 3 โมงเย็นของวันนี้พวกตนได้เดินทางไปขับเรือเล่นที่บางกระเบาก่อนที่จะเดินทางกลับโดยผู้สูญหายและสามีของตนขี่เรือมาคนละลำส่วนตนขับรถจักรยานยนต์ตามมา พอขับมาได้สักพักเสียงเรือก็เงียบไปหลังจากนั้นแฟนของตนก็วิ่งร้องไห้ขึ้นมาจากริมตลิ่งแล้วตะโกนบอกว่าเขาช่วยไม่ทันเขาช่วยไม่ทัน โดยบริเวณที่เกิดเหตุใกล้จะถึงบ้านของพวกตนแล้ว ซึ่งพอพวกตนมาบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่มีหรือไม่พบใครที่จะเข้าทำการช่วยเหลือผู้สูญหายเลย โดยตนก็ไปสอบถามคู่กรณีที่ขับเรือชนกันเขาก็บอกว่าเขาพยายามหาแล้วแต่หาไม่เจอ

 

ระทึก “เรือเร็วกึ่งสปีดโบ๊ต” ชน “เรือหางยาว” กลางแม่น้ำบางปะกง สูญหาย 1

 

จากการสอบถามคนขับเรือคู่กรณีชื่อนายธีร์ (สงวนนามสกุล)อายุ 34 ปี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า โดยตนขับเรือมาจากบ้านสร้างเพื่อที่จะมุ่งหน้าบางแตนพอถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นหัวโค้งพบว่ามีเรือลำหนึ่งวิ่งสวนทางขึ้นมาโดยตนก็ไม่ทราบว่าเป็นเรืออะไรแต่เป็นเรือของชาวบ้านคล้ายกับเรือหางยาว ขับพ้นเรือของตนไปแล้วแต่สักพักกลับมีเรืออีกลำหนึ่งแทรกเข้ามาแล้วก็เกิดการชนกันขึ้น กับเรือของตนโดยเรือทั้ง 2 ลำขับอยู่กันคนละฝั่งของแม่น้ำจึงทำให้ตนไม่ได้สังเกตเพราะบริเวณที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งของแม่น้ำโดยตนก็ขับเรือมาโดยใช้ความเร็วต่ำ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่ได้ขับเรือไปชนเขา

 

 

สอบถามนายกรณ์ เจ้าของท่าข้าว สิริธงชัย ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้ให้ข้อมูลว่า เรือสปีดโบ๊ทวิ่งมาอีกทางหนึ่งของแม่น้ำ และปรากฏว่า มีเรืออีก 2 ลำ วิ่งตีคู่กันขึ้นไป ซึ่งก่อนหน้านั้นพบว่า มีการขับเรือแล่นกันประมาณ 10 กว่าลำ โดยเรือ 2 ลำที่เกิดเหตุนั้น ได้ขับตามไปทีหลัง ก่อนที่จะเกิดเหตุ ซึ่งตอนที่เกิดเหตุนั้น ตนเห็นว่ามีร่างของคนอยู่บริเวณกลางแม่น้ำ หลังจากเกิดเหตุนั้น เรือสปีดโบ๊ทคู่กรณีได้ขับมาจอดเทียบท่า ก่อนที่จะเรียกหาคนขับเรือ และพยายามลงไปช่วยผู้สูญหาย โดยทางตนและประชาชนในพื้นที่ ได้โทรประสานงานแจ้งหน่วยกู้ภัยลงทำการค้นหาหลังจากที่ทราบว่ามีผู้สูญหายไปในน้ำ

 

ระทึก “เรือเร็วกึ่งสปีดโบ๊ต” ชน “เรือหางยาว” กลางแม่น้ำบางปะกง สูญหาย 1

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน จุดบ้านสร้าง และ อาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทราได้ลงทำการค้นหาผู้สูญหายภายในน้ำ โดยพบอุปสรรคในเรื่องของความมืด และกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ซึ่งทำให้การค้นหานานประมาณ 1 ชั่วโมง ต้องยุติลง เนื่องจากยังไม่พบร่างผู้สูญหาย หลังจากนั้นจึงได้เดินทางขึ้นมาร่วมประชุมวางแผนเพื่อที่จะทำการค้นหาผู้สูญหายในรอบต่อไปอีกครั้งหนึ่ง

logoline