นายสราวุธ วงศ์กาวิน สมาชิกสหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด จ.เชียงใหม่ เล่าว่า ตอนนี้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม และมีบทบาทในสหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทามากยิ่งขึ้น มีการสืบสานต่อยอดแนวความคิดของผู้นำชุมชนรุ่นก่อน โดยนำอุปกรณ์สมัยใหม่ เทคโนโลยีต่าง ๆ และเรื่องออนไลน์ เข้ามาปรับใช้ในด้านการตลาด อย่างสมัยก่อนสมาชิกที่ผลิตพืชผักอินทรีย์จะมีตลาดอยู่ช่องทางเดียว คือ ขายตามตลาดนัด
แต่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับการตลาด ตามรูปแบบ “ตลาดนำการผลิต” มีการผลิตตามออเดอร์ รวมไปถึงช่องทางการจำหน่ายหลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะส่งจำหน่ายตามร้านอาหาร โรงแรม โรงเรียน จำหน่ายในห้าง Modern Trade และช่องทางออนไลน์ ซึ่งกำลังมาแรงมาก ๆ ทำให้คุณภาพชีวิตของสมาชิกดีขึ้น มีรายได้ที่มั่นคง
ปัจจุบัน สหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด จ.เชียงใหม่ มีการผลิตพืชผักอินทรีย์แบบ 100% เพราะเกษตรกรให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ไร้สารเคมีในการผลิตทุกขั้นตอน ใช้วิธีการปลูกและดูแลแบบธรรมชาติล้วน ๆ ไม่ใส่ปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและวัชพืช จนสามารถส่งจำหน่ายได้ทั่วประเทศ ในความสำเร็จครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการผลักดันของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาช่วยเหลือ ให้องค์ความรู้ และสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้การผลิตมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ตัดแต่งผลผลิตการเกษตร ห้องเย็นจัดเก็บผลผลิตการเกษตร นอกจากนี้ยังส่งเสริมด้านการผลิตพืชผักอินทรีย์ ตามแผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ พ.ศ. 2560 - 2565
ด้านนายสิทธานต์ สิทธิประเสริฐ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ 5 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เดิมทีสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของพื้นที่ซึ่งมีสารเคมีปะปนอยู่ ทำให้สมาชิกต้องการแก้ไข และทางสหกรณ์ฯ ก็มีความต้องการจะพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ให้มีการทำเกษตรอินทรีย์มาตั้งแต่ปี 2529 จนกระทั่งมีโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) เข้ามาในพื้นที่ตรงนี้ ทำให้ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เข้ามามีส่วนร่วม สนับสนุน ส่งเสริมในเรื่องของการทำการเกษตรอินทรีย์มากยิ่งขึ้น มีการส่งเสริมในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์การผลิต การบริหาร การตลาด และยิ่งมีกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างสมาชิก สหกรณ์ และตลาด
ทำให้สหกรณ์ฯ มีความเข้มแข็ง สามารถผลิตพืชผักอินทรีย์ได้อย่างมีคุณภาพ ได้รับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ สร้างความมั่นใจสู่ผู้บริโภค และเป้าหมายในอนาคตคือ การสนับสนุนให้คนในชุมชนผลิตพืชผักแบบเกษตรอินทรีย์มากกว่า 50% และผลักดันให้เข้าสู่ระบบสหกรณ์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้อยู่ดี กินดี บนวิถีเกษตรกรรม