18 ธันวาคม 2565 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวน่าสนใจจากองค์กรตรวจสอบอันดับ 1 ของประเทศอย่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยก่อนหน้านี้"พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ" ประธานป.ป.ช. เคยเปิดเผยสื่อมวลชน"ป.ป.ช." จะมีการชี้มูล "คดีระบายมันสำปะหลังแบบ จีทูจี" ในวันที่ 14 ธันวาคม 2565 แต่เมื่อถึงวันดังกล่าวเกิดเหตุการณ์เลื่อนออกไปอย่างมีนัย
สำหรับคดีระบายมันสำปะหลังแบบจีทูจี มีสำนวนรวมทั้งหมด 3 สำนวน
1.กรณีกล่าวหา "นางพรทิวา นาคาศัย" เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว. พาณิชย์ กับพวก (รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)
2.กรณีกล่าวหา "นายบุญทรง เตริยาภิรมย์" เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก (รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
3.กรณีกล่าวหา "นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี" เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กับพวก (รัฐบาลอภิสิทธิ์)
เหตุผลที่เป็นข่าว ก็คือ มีการระบุว่า เจ้าหน้าที่ดูแลสำนวนเดินทางไปต่างประเทศกลับมาไม่ทัน แต่มีเหตุผลอีก 1 ประการที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงในวงกว้างมากนักก็คือ
- ติดขัดปัญหาการพิจารณาสำนวนกรณีกล่าวหา "นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี" เจ้าของฉายา "สามสี ภูเขาทอง" เพราะในชั้นไต่สวนไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา มีการแจ้งข้อกล่าวหาระดับสูงสุดแค่ปลัดกระทรวง ทำให้กรรมการ ป.ป.ช.บางรายทักท้วง เนื่องจาก "ไตรรงค์" มีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายมันสําปะหลัง พร้อมยกกรณี "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร " อดีตนายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ก็ยังถูกแจ้งข้อกล่าวหาคดีระบายข้าวจีทูจีด้วย
- แต่กรรมการ ป.ป.ช.อีกฝั่งหนึ่งโต้แย้งว่า ไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหา "ไตรรงค์" เพราะหลักฐานไปไม่ถึง รวมถึง ครม.ทั้งคณะด้วย เพราะหลักฐานไปไม่ถึง
***เรื่องนี้ แหล่งข่าวไม่ได้พูด แต่ "เนชั่นทีวี" ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า หากคิดในหลักการไม่ชี้มูลความผิดประธานคณะกรรมการที่รับผิดชอบในเรื่องนั้นๆจะคล้ายๆ กับคดีจัดซื้อเครื่องตรวจระเบิดลวงโลก "จีที 200" ที่เป็นไม้ล้างป่าช้า สูญงบไปเป็นพันล้าน แต่อดีต ผบ.ทบ. และอดีต รมว.กลาโหม ที่จัดซื้อมากที่สุดในยุคนั้น และยังเป็นใหญ่อยู่จนถึงทุกวันนี้ ไม่มีใครโดนชี้มูล มีแต่ทหารระดับล่างที่โดน
- ที่ประชุม ป.ป.ช.เมื่อ 14 ธันวาคม 2565 ถกเถียงกันไม่ลงตัว ที่ประชุมจึงเลื่อนการลงมติชี้มูลคดีมันเส้น 3 สำนวนไปเป็นวันที่ 19 ธันวาคม แทน
ความเคลื่อนไหวนี้บอกอะไร....
1. นายไตรรงค์ส่อรอด
2.นายไตรรงค์ ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ รับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ด้านเศรษฐกิจ คู่กับที่ปรึกษานายกฯอีกคน คือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
3.ปัจจุบัน "นายไตรรงค์" เป็นคีย์แมนสำคัญในพรรคใหม่"ลุงตู่" คือ"พรรครวมไทยสร้างชาติ" เคยมีข่าวไปปรากฏตัวที่บ้านท่านนายกฯในค่ายทหาร
4.ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ "ป.ป.ช."จะชี้มูลคดีทุจริตใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองระดับ "บิ๊กเนม" อย่างน้อยๆ 3 คดี (ข่าวตอนแรกระบุจะชี้มูลภายในเดือน พฤศจิกายน แต่ล่าสุดคือภายในปีนี้)
-คดีระบายมันสำปะหลัง จีทูจี ทั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (รวม 3 สำนวน)
-คดีจำนำข้าว ภาค 2 โยงอดีตนายกฯคนแดนไกล 2 คน และเจ๊ ด.
-คดีทุจริตโครงการถุงมือยางแสนล้าน โยงคนของพรรคการเมืองเก่าแก่
วิจารณ์กันว่าถ้า ป.ป.ช.ชี้มูลทั้งหมดนี้ นักการเมือง "บิ๊กเนม" จะติดบ่วง ป.ป.ช.กันหมด เพราะผู้เกี่ยวข้องเยอะมาก แม้แต่ "นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ที่ปรึกษานายกฯ และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือแม้แต่ "บิ๊กป้อม" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็จะติดบ่วงด้วย เพราะมีชื่อใน "ครม.อภิสิทธิ์"
ส่วนฝั่งเพื่อไทยไม่ต้องพูดถึง เพราะอ่วมจากจำนำข้าวภาค 1 ภาค 2 ด้วยอยู่แล้ว
พูดง่ายๆ คือจะมี "นายกฯประยุทธ์" คนเดียวเท่านั้นที่สดใสแวววาว ไม่มีมัวหมอง ไม่มีไฝฝ้าราคี
แต่ข่าวที่ออกมาล่าสุดจาก "ป.ป.ช." คือไม่ได้ชี้มูล ครม.ทั้งคณะ ในคดีมันสำปะหลัง
"นายไตรรงค์" รอดแน่นอนแล้ว รวมถึง"นายพีระพันธุ์" ก็มีโอกาสรอดด้วย
แน่นอนว่าในทางหลักฐาน อาจจะไปไม่ถึงจริงๆ เพราะอยู่ไกลจากการกระทำความผิด แต่ในทางการเมืองย่อมมีการตั้งประเด็นว่า...งานนี้คนใกล้ชิดท่านนายกฯ รอดอีกแล้ว! (แถมกำลังจะได้ดี ได้ตำแหน่งใหญ่ขึ้น สำคัญขึ้น เช่น นายพีระพันธุ์ กำลังจะได้นั่งตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
แบบนี้จะทำให้กระแสความนิยม"นายกฯลุงตู่"พุ่งขึ้นในช่วงใกล้เลือกตั้งที่กำลังมีการตบเท้าย้ายพรรค "ดูด ดึง เด้งรับ" กันอยู่ในขณะนี้หรือไม่