“จุรินทร์” ออนทัวร์เขตหนองจอก เมินพลังดูด ไม่พูดจับขั้วเดิมตั้งรัฐบาล

17 ธันวาคม 2565 นายจุรินทร์​  ลักษณวิศิษ​ฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ พร้อมด้วยนายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.หนองจอก พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่​พบปะประชาชน ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรเขตหนองจอก (ศพก) แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก​ กรุงเทพฯ พร้อมนำคาราวานพาณิชย์ลดราคามาจำหน่ายสินค้าราคาถูกให้ชาวบ้านด้วย

โดยนายจุรินทร์ กล่าวกับผู้ร่วมงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับอาชีพเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาผู้ปลูกข้าว ปีนี้ราคาข้าวราคากลางๆ แต่มีประกันราคาสินค้าเกษตรช่วยเกษตรกรอยู่ แม้สภาฯชุดนี้จะหมดวาระตนก็จะขับเคลื่อนนโยบายประกันราคาสินค้าการเกษตรต่อไป แต่การจะขับเคลื่อนต้องได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้าน โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ

หลังจากเสร็จสิ้นการลงพื้นที่ นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการลงพื้นที่เขตหนองจอกพร้อมกับนายศิริพงษ์ ว่า ไม่มีนัยยะสำคัญทางการเมืองอะไรเป็นพิเศษ การลงพื้นที่เป็นไปตามโครงการจุรินทร์ออนทัวร์ตามปกติ แต่ก็ต้องขอบคุณส.ส.ที่มาร่วมทำกิจกรรมด้วย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ฝ่ายนิติบัญญัติ กับฝ่ายบริหารมาทำงานร่วมกัน ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีโอกาสเห็นนายศิริพงษ์สวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ก็ต้องถามนายศิริพงษ์ เพราะต้องเป็นคนนับหนึ่งในการตัดสินใจ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รังเกียจ เพราะนายศิริพงษ์ก็ถือว่าเป็นส.ส.ที่มีคุณภาพคนหนึ่ง ในสภาฯ และมีพื้นฐานคะแนนเสียงที่ดีในเขตหนองจอก

สำหรับส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ลาออกไป ขณะนี้ได้มีการหาคนมาแทนแล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อเป้าหมายใหญ่ของพรรค เพราะพรรคมีเป้าหมายชัดเจน

“คนที่มีความพยายามที่จะทาบ ทามส.ส.ของพรรคมีการเข้ามาพูดคุย แต่ส.ส.ส่วนใหญ่ยังคงยืนหยัดอยู่กับพรรค และไม่กระทบอะไร อีกทั้งยังมี อดีต ส.ส. เข้ามาร่วมกับพรรคหลายคน พร้อมมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะปักธงที่กทม.ได้แม้การเลือกตั้งปี62 จะไม่ได้แม้แต่คนเดียว แต่ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และส.ก.พิสูจน์แล้วว่าประชาชนให้การตอบรับพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น อย่างน้อยได้ส.ก.ตั้ง9 คน ผู้สมัครผู้ว่าฯก็ได้อันดับ 2 ฉะนั้นเสียงสะท้อนดีขึ้นจากครั้งที่แล้วแน่นอน แต่จะได้เท่าไหร่อย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับผู้สมัครที่พรรคได้คัดเลือก ซึ่งหลังปีใหม่คาดว่าน่าจะได้เปิดตัวว่าที่ส.ส.ครบทุกเขต  แต่ยังมีบางเขตที่เพิ่มขึ้นมา จึงยังไม่ชัดเจนในตัวผู้สมัคร ซึ่งผู้สมัครก็มีทั้งอดีตส.ส.และคนรุ่นใหม่ คนหน้าใหม่

ส่วนปัญหาในพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยมีข่าวว่ามีกระบวนการโค่นล้มหัวหน้านั้น เบื้องต้นพรรคไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกคนที่เป็นข่าวก็ออกมาปฏิเสธชัดเจนแล้ว เราพร้อมที่จะจับมือกันอย่างเป็นเอกภาพ ในการที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนพรรคต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องจุดยืนหลังการเลือกตั้ง เพราะต้องนับหนึ่งที่ประชาชน จะไปนับหนึ่งก่อนประชาชนไม่ได้เพราะระบบนี้ประชาชนต้องให้คำตอบว่าให้เสียงพรรคการเมืองแต่ละพรรคจำนวนเท่าไหร่นั้นคือเจตนารมที่ประชาชนสนับสนุนพรรคการเมืองไหนเท่าไหร่เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ดังนั้นจึงตอบก่อนประชาชนไม่ได้ ถ้าทำเช่นนั้นเหมือนไม่เคารพเสียงของประชาชน ส่วนจะมีโอกาสที่พรรคร่วมเดิมจะได้เป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งอีกหรือไม่นั้นตนไม่สามารถวินิจฉัยได้เพราะต้องรอผลการเลือกตั้ง

ด้านนายศิริพงษ์ ย้ำว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่มีนัยยะทางการเมือง ตนในฐานะที่ทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ เมื่อรองนายกรัฐมนตรีที่ฝ่ายบริหารมาลงพื้นที่ก็มาต้อนรับเป็นเรื่องปกติ ปัจจุบันยังยืนยัน ยังเป็นส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และไม่มีนัยยะทางการเมือง ส่วนอนาคตยังไม่ขอตอบ วันนี้มาให้เกียรตินายจุรินทร์ แต่ยังไม่ขอตอบการย้ายพรรค เพราะยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะวันนี้มีชีวิตอยู่ไม่รู้ว่าวันหน้าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่