svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ราชกิจจาฯ"ประกาศสำนักนายกฯ"ถอดยศ"และ"เรียกคืนเครื่องราชฯ" จำนวน 11 ราย

16 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ราชกิจจาฯ" เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้"ถอดยศตำรวจ" และ"เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์" จำนวน 11 ราย

 

16 ธันวาคม 2565  "ราชกิจจาฯ" เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศตำรวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์

 

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศ ข้าราชการตำรวจ ออกจากยศตำรวจ จำนวน ๑๑ ราย ตามมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติ ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ. ๒๕๔๗ ข้อ ๑ (๒) และ (๔) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตราตามข้อ ๖ และข้อ ๗ (๒) และ (๔) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ ดังนี้

 

\"ราชกิจจาฯ\"ประกาศสำนักนายกฯ\"ถอดยศ\"และ\"เรียกคืนเครื่องราชฯ\" จำนวน 11 ราย

๑. พลตำรวจตรี รณพงษ์ ทรายแก้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่ ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เนื่องจากกระทำความผิดอาญา ฐานความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นมหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา

 

๒. พันตำรวจเอก พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่ว อย่างร้ายแรงและถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาชิงทรัพย์ ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์ช้างเผือก และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

\"ราชกิจจาฯ\"ประกาศสำนักนายกฯ\"ถอดยศ\"และ\"เรียกคืนเครื่องราชฯ\" จำนวน 11 ราย

๓. พันตำรวจเอก อนุชน ชามาตย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่ ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เนื่องจากกระทำความผิดอาญา ฐานความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

 

\"ราชกิจจาฯ\"ประกาศสำนักนายกฯ\"ถอดยศ\"และ\"เรียกคืนเครื่องราชฯ\" จำนวน 11 ราย

๔. พันตำรวจโท สมจิต แก้วพรม ตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระท าผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงและถูกดำเนินคดีอาญาฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น ๒ ประเภทที่ ๒ เหรียญราชการชายแดน และเหรียญจักรมาลา

 

๕. พันตำรวจโท ปัณณรุจน์ เรืองเกษมสัณห์ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็น วันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีต้องหาคดีอาญา ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพ ลักทรัพย์ และกรรโชก และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย และจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก

 

๖. พันตำรวจโท ศักดินันท์ มูลมณี ตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกัน เป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และเบญจมาภรณ์ช้างเผือก

 

๗. ร้อยตำรวจเอก ติณณภพ บุญช้าง ตั้งแต่วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อ ในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

 

๘. ร้อยตำรวจเอก ฉัตรชัย สอนสุด ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระท าผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อ ในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญทองช้างเผือก

 

๙. ร้อยตำรวจเอก อดิศักดิ์ ขันละ ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว อย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

 

๑๐. ร้อยตำรวจโท ณรงกฤต สุนทรสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อ ในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเหรียญทองช้างเผือก

 

๑๑. ร้อยตำรวจตรี สุวิราช สุ่มเนตร ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อ ในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น ๒ ประเภทที่ ๒ เหรียญราชการชายแดน และเหรียญทองช้างเผือก

 

ทั้งนี้ ข้าราชการตำรวจทั้ง ๑๑ รายดังกล่าว เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว ประกาศ ณ วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕ ๖๕

 

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

 

คลิกอ่านฉบับเต็ม >>>>

 

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศตำรวจและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จำนวน 11 ราย 

logoline