7 ธันวาคม 2565 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อม ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงเปิดเผยความรู้สึกหลังรัฐสภามีมติตีตกร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ประเด็นการปลดล็อคท้องถิ่น
โดย นายวีระศักดิ์ เครือเทพ รองศาสตราจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า มีข้อคิด 2 ประเด็น คือ 1. มติออกมารู้สึกเสียดายจาก 8 หมื่นคน ที่ร่วมเข้าชื่อเสนอ ซึ่งผู้โหวตมองประเด็นการเมืองมากกว่าประโยชน์ของคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นอคติ แต่สิ่งที่คิดในอนาคตคือประชาชนจะปล่อยให้ชีวิตอยู่ในอำนาจรัฐ หรือจะออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ และ 2. สิ่งที่ต้องคิดต่อคือเร็วๆนี้จะมีการเลือกตั้ง โดยเชื่อว่านโยบายท้องถิ่นจะมีหลายพรรคชูการหาเสียง ให้รอดูต่อไปว่าจะมีการกลืนน้ำลายหรือไม่ในการทำไปหาเสียง แต่โหวตไม่รับหลักการ
ขณะที่ นายธนาธร กล่าวว่า วัตถุประสงค์การเสนอร่างรัฐธรรมนูญ เป็นร่างฯที่ตั้งใจปฏิรูประบบราชการไทยให้มีประสิทธิภาพตอบสนองความเดือดร้อนของประชาชน ให้ทันต่อสถานการณ์ทันต่อโลกมากขึ้น และหัวใจสำคัญของร่างฯคือการปลดปล่อยให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าของทรัพยากร ให้ประชาชนจัดการด้วยตัวเองได้ โดยยังมี 3 ประเด็นที่มีความกังวล คือ 1.แนวคิดสุดโต่งเกิดไปชี้แจงว่าหากไม่ทำประเทศจะไม่ช้าไปหรือไม่ ที่ผ่านมาปล่อยปัญหาประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขนาน 10 ปี 2.ร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ตามที่มีความกังวล และ 3. เรื่องการทุจริตชี้แจงว่ามีรายงานว่าส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มีมูลค่าการทุจริตมากกว่าท้องถิ่น
"ร่างดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาเปลี่ยนการปกครอง แต่ต้องการทำให้บริหารภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งข้อกล่าวหาไม่ได้ตั้งมูลความจริง แต่ตั้งอยู่บนความอคติ" นายธนาธร กล่าว
ด้าน นายพิธา ตอบรับและจะนำไปพลักดันต่อไป เพราะการกระจายอำนาจทั้งรายได้บุคลากร จะเป็นหนทางที่เป็นแนวทางเดินหน้าประเทศ จะนำไปปราศรัยหาเสียงทุกเวทีในการเลือกตั้งครั้งหน้า และหากยังไม่มีการแก้กฎหมายเชื่อว่าโครงสร้างประเทศไทยจะกระจุกตัวเกิดปัญหาแก้ไม่ทันการณ์
ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรวสิน ผู้จัดการสื่อสารและรณรงค์นโยบาย กล่าวว่า แม้ถูกปัดตกแต่ยังยืนยันจะผลักดัน หากประชาชนกังวลประเด็นผลกระทบต่อสถานะและบทบาทต่อเจ้าหน้าที่รัฐส่วนท้องถิ่น ยืนยันไม่ได้มีการยกเลิกกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน และไม่ได้มีการยกเลิกส่วนราชการส่วนภูมิภาคโดยทันที แต่มีกระบวนการทำประชามติและเปิดให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำแผนดำเนินการอย่างรอบคอบ