svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เป็นเรื่อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ รับฟ้องคดี "เสรีพิศุทธิ์" หมิ่น "สิระ"

01 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เป็นเรื่อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ รับฟ้องคดี "เสรีพิศุทธิ์" หมิ่น "สิระ" ไว้พิจารณา นัดสอบคำให้การจำเลยและตรวจหลักฐาน 20 มี.ค. ปีหน้า

1 ธันวาคม 2565 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมายเลขดำที่​ ​อ.​2867/2563 ที่ นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะ ประธานกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ​ หรือ กมธ.ป.ป.ช. สภาฯ เป็นจำเลยในความผิด ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา

กรณีสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 63 นายสิระ โจทก์ ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็น กมธ.ป.ป.ช. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จำเลย ในฐานะ ประธาน กมธ.ป.ป.ช. จึงทำหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 10 ก.ย. 2563 และยื่นหนังสือดังกล่าว ผ่านสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร์ ​ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร์​ว่า​ โจทก์มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น กมธ.ป.ป.ช. 

 

เป็นเรื่อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ รับฟ้องคดี "เสรีพิศุทธิ์" หมิ่น "สิระ"

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จำเลย ในฐานะ ประธาน กมธ.ป.ป.ช. จึงขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้ง กมธ. แทนที่ว่าง และมีข้อความในย่อหน้าสุดท้ายว่า

เนื่องจาก นายสิระ​ เจนจาคะ​ เป็น กมธ. ที่ไม่มีความรู้ และไม่สนใจปฏิบัติหน้าที่ ขาดการประชุมบ่อยครั้ง เข้าประชุมแต่ละครั้งเพียง 1 นาที หรือไม่เกินครึ่งชั่วโมง เพียงหวังรับเบี้ยประชุมเท่านั้น จึงขอให้แจ้งทางพรรคได้พิจารณาบุคคล ที่มีความรู้ความเหมาะสมกับตำแหน่งมาปฏิบัติหน้าที่ ต่อมาสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เผยแพร่หนังสือดังกล่าวในเว็บไซต์ของสภาผู้แทนราษฎร 

 

นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ
 

โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้อง ตั้งแต่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งวันนี้ นายสิระ โจทก์และผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลย เดินทางมาศาล​เพื่อฟังคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ตามทางไต่สวนมูลฟ้องได้ความว่า​ โจทก์เป็น ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง พรรค พปชร. และเป็นประธานคณะกรรมการ ที่การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน​

ส่วนจำเลยเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย และเป็นประธาน กมธ.ป.ป.ช. มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า คดีโจทก์มีมูลหรือไม่ เห็นว่าการหมิ่นประมาทนั้น เป็นการกระทำโดยใส่ความ คือบอกกล่าวข้อความอันเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว หรือกำลังเกิดขึ้นอยู่ เป็นการยืนยันข้อเท็จจริง เป็นการกล่าวหาผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม ให้ได้รับความเสียหาย และข้อความดังกล่าว จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่

จากถ้อยคำที่จำเลย กล่าวในหนังสือประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ว่าโจทก์เป็น กมธ. ไม่มีความรู้ และไม่สนใจปฏิบัติหน้าที่ ขาดการประชุมอยู่บ่อยครั้ง เข้าประชุมแต่ละครั้งไม่เกินครึ่งชั่วโมง เพื่อหวังเบี้ยประชุมเท่านั้น​ มีลักษณะเป็นการยืนยันว่า โจทก์ขาดคุณสมบัติ ในการทำหน้าที่ กมธ. ทำให้โจทก์ ซึ่งเป็น ส.ส. ที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนทั่วไป ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามว่า ไม่มีความรู้ความสามารถ ในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นคนไม่ดี ไม่ซื่อตรง หรือทุจริตประพฤติมิชอบเสียเอง

ถ้อยคำดังกล่าว จึงอาจทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ​อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทได้​ ประกอบกับได้ความตามที่โจทก์ เบิกความตอบทนายจำเลย ถามค้านว่า โจทก์กับจำเลย มีข้อพิพาทกันมาก่อน​ จำเลยกล่าวถ้อยคำดังกล่าว ในหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่สุจริต มุ่งจะทำลายชื่อเสียงของโจทก์ ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง​ ได้รับความเสียหาย

คดีโจทก์จึงมีมูล ให้ประทับรับฟ้องและพิจารณา ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น​ พิพากษากลับให้ประทับรับฟ้อง​ และนัดจำเลยมาสอบคำให้การ​ ตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 20 มี.ค. 2566 เวลา 13.30 น. 

 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย

logoline