สำหรับความเข้มข้นทางการเมืองหลังจบประชุมเอเปค ครั้งที่ 29 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพนั้น โดย "บิ๊กตู่" จะกลับมาเผชิญกับประเด็นท้าทายอีกครั้ง และมีหลายปัจจัยส่งผล ได้แก่
1.เป็นช่วงเวลาของการตัดสินใจทางการเมืองของหลายๆ คน ว่าจะอยู่พรรคเดิม หรือย้ายชายคา
2.ทุกพรรค และว่าที่ผู้สมัคร เร่งลงพื้นที่จริงจังมากขึ้น
3.น่าจะมีการตัดสินใจทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งประเด็นนี้ แน่นอนว่า "ลุงตู่" ถูกสปอร์ตไลต์สาดส่อง
-อยู่กับพลังประชารัฐต่อ รอเคาะเสนอชื่อแคนดิเดต พี่ใหญ่ดูงานการเมืองให้น้องเล็ก อาจแบ่งวาระนายกฯ คนละ 2 ปี
-ย้ายไปร่วมงานกับรวมไทยสร้างชาติ
**การตัดสินใจของนายกฯ จะส่งผลต่อองคาพยพอื่นๆ ทางการเมืองมากพอสมควร โดยเฉพาะการไหลเข้า-ออก ของ ส.ส.
4.ศึกในสภาจะดุเดือด โดยเฉพาะกฎหมายกัญชา กัญชงฯ
-ต้นสัปดาห์หน้ามีประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. (นายกฯประธาน)
-มีวาระพิจารณาประกาศสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 **ฉบับลงวันที่ 16 มิ.ย.65 กับ 11 พ.ย. 65
-ก่อนหน้านี้ มีคณะแพทย์ และ ส.ส.ฝ่ายค้าน ไปยื่นฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศสาธารณสุข และให้กัญชากลับเป็นยาเสพติด
-ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ อาจเข้าสภาวาระ 2-3 สัปดาห์หน้า
**จับตา การประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. จะดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดประเภท 5 ก่อนหรือไม่
5.มีการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ทิ้งทวน - รัฐบาลจะยุบสภาหนีหรือไม่
6.ปรับ ครม.ทิ้งทวน ชิงความได้เปรียบทางการเมือง (ปรับเล็ก หรือปรับใหญ่ หรือไม่ปรับ มีผลทางการเมืองต่างกัน)
7.ม็อบนอกสภา จะยืดเยื้อหลังเอเปคหรือไม่ หลังสร้างกระแสได้พอสมควรช่วงเอเปค
ขณะที่ "ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้วิเคราะห์พร้อมสะท้อนอาการทางการเมือง ของ พล.อ.ประยุทธ์ นับจากนี้
1.เอเปค = โค้งสุดท้ายของการเมืองยุคปัจจุบัน แต่จะเป็นจุดสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ ยังเป็นคำถาม
2.สภาสุดท้าย ส.ส.สุดท้าย และรัฐบาลสุดท้าย (แต่ ครม.สุดท้ายหรือไม่ ยังเป็นคำถาม เนื่องจากหลายรัฐบาลในอดีต เลือกปรับ ครม.ทิ้งทวนก่อนเลือกตั้ง เพื่อชิงความได้เปรียบ คุมกลไกรัฐ และคุมพื้นที่)
3.โค้งสุดท้ายการเมืองยุคปัจจุบัน มองเห็นผลกระทบ 9 ส่วน
-อนาคตพรรคทหาร คือ พปชร. สถานะเป็นอย่างไร
-ผู้นำรัฐประหาร ผู้นำรัฐบาล จะอยู่อย่างไร ในความสัมพันธ์กระท่อนกระแท่น
-ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล มีปัญหาเอกภาพ
-ปัญหาของพรรคฝ่ายค้านเอง ก็มีปัญหาอีกแบบหนึ่ง
-บทบาททหารและกองทัพในอนาคต
-บทบาทของกลุ่มทุนไทย กลุ่มทุนใหญ่ มีบทบาททางการเมืองมากขึ้น เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
-บทบาทของคนรุ่นใหม่
-บทบาทของปีกอนุรักษ์นิยม ที่มีลักษณะเป็นจารีตนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
-บทบาทของฝ่ายประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.สุรชาติ มองว่า แนวโน้มหลังการประชุมเอเปค จะเกิดภาวะ "3 ชิง" คือ เสียง-พื้นที่-การนำ และสิ่งที่เกิดตามมา
-การต่อสู้ของพื้นที่ทางการเมืองของทุกภาคส่วนจะเข้มข้นขึ้น
-ส.ส.และพรรคการเมืองจะลงพื้นที่มากขึ้น
-การต่อสู้ในสภาจะเข้มข้นขึ้น
ดังนั้น หลังเอเปคจะเห็นความชัดเจนทางการเมือง ในเชิงบุคลากรของพรรคการเมืองต่างๆ ใครจะอยู่กับใคร แต่ละพื้นที่ใครจะลงสมัคร
ถ้าไม่ยุบสภาช่วงคริสต์มาส ก็ไปลุ้นหลังปีใหม่ ทุกอย่างจะชัดขึ้น การเมืองไทยหลังปีใหม่ จะเข้มข้นขึ้น ชิงการนำ สภาจะเข้มข้นสุดๆ
ทว่า สิ่งที่เป็นประเด็นต่อมา คือ ปัญหาของฝ่ายผู้มีอำนาจ เนื่องจากผู้นำปัจจุบันประสบปัญหา 3 ส่วน
1.โพลที่คะแนนเสียงผู้นำตกลง
2.ความสำเร็จเชิงนโยบายไม่ปรากฏชัดเจน
3.ความน่าเชื่อถือทางการเมืองก็ลดลง
ทว่า เหลืออย่างเดียวการจัดเอเปคให้น่าตื่นเต้น แต่ถึงวันนี้ไม่น่าตื่นเต้น "กร่อยกว่าที่คิด" เนื่องจากรัฐบาลมีปัญหา 3 เอกภาพ
-ผู้นำรัฐประหารเดิม คือ 3ป.แตกกันหรือไม่ ซึ่งแตกไม่แตกไม่ใช่ประเด็น แต่เอกภาพไม่เหมือนเก่า
-เอกภาพใน พปชร.ไม่เหมือนเดิม เจอภาวะพรรคซ้อนพรรค ซึ่งไม่ใช่แค่มุ้ง แต่เป็นพรรคซ้อนพรรค
-เอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล
สรุป เมื่อมองเห็นความถดถอย 3 ประการของผู้นำ และตัวรัฐบาลก็เจอปัญหา 3 เอกภาพ...
-หลังเอเปคเป็นโจทย์การเมืองภายในล้วนๆ
-เอกภาพไม่เหมือนเดิม แม้ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกอยู่ต่อกับ พปชร. หรืออยู่ด้วยกันกับ 3ป. ก็ไม่เหมือนเดิม แต่ถ้าแยกก็คือสลาย
-อนาคตการเมืองไทย ยุบสภาเมื่อไหร่ หรือจะลากไปนานแค่ไหน ยังเป็นคำถาม รวมทั้งการปรับ ครม. ชิงความได้เปรียบ เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง