"ราเมศ"ย้ำกัญชาเสรีไม่ใช่นโยบายรัฐย้ำปชป.เน้นถูกต้องไม่ใช่ถูกใจ

19 พฤศจิกายน 2565 "นายราเมศ รัตนะเชวง" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การที่ "นายพลพีร์ สุวรรณฉวี" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ประเด็นเรื่องร่างกฎหมายกัญชา เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น ก็ถือเป็นสิทธิที่ออกมาชี้แจงในประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงกันอยู่ แต่เสียอย่างเดียวไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ที่จะทำให้เห็นได้ถึงข้อมูลที่ได้ตั้งคำถามไว้ แต่เมื่อออกมาพาดพิงก็ต้องชี้แจงอีกเช่นกัน เพราะไม่เช่นนั้นจากโจทก์ก็จะเป็นจำเลยไปได้

ประการแรก ที่บอกว่าตนออกมาโจมตี "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั้น ตอบในประเด็นได้ไม่ยาก ให้กลับไปดูต้นตอว่า ใครเริ่มพาดพิงพรรคการเมืองอื่นก่อน และโดยส่วนตัวไม่เคยไปเริ่มต้นกล่าวหาใส่ร้ายใคร แต่หากใครมาพาดพิงก็ต้องออกมาชี้แจงทำความเข้าใจ

ประการที่สอง ที่กล่าวโจมตีเรื่องมารยาททางการเมือง ที่ให้แยกออกจากเรื่องความถูกต้อง เป็นแค่การแก้ตัว ของคนที่ไม่รับผิดชอบ ไม่เคารพกติกาของการอยู่ร่วมกัน เป็นการสื่อสารของพวกไม่มีเครดิต วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้ทำอีกอย่าง เชื่อถือไม่ได้ ประเด็นนี้คำพูดดังกล่าวคือคำตอบอยู่ในตัว ถ้านักการเมืองที่ออกมาเรียกร้องมารยาททางการเมือง โดยไม่คิดหลักการความถูกต้อง นั่นไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่พรรคการเมืองในอุดมคติ

"เรื่องกฎหมายกัญชาคนที่ทักท้วง เพราะเขาเป็นห่วงสังคมเป็นห่วงประเทศชาติ ยิ่ง ส.ส.และ พรรคการเมืองที่คิดได้ นั่นคือความรับผิดชอบที่มีต่อส่วนรวม ที่บอกว่าให้ประชาธิปัตย์มีความรับผิดชอบ กติกาการอยู่ร่วมกันในสังคม ถ้าใครทำดีช่วยเหลือกันนั่นควรสรรเสริญ แต่ถ้าใครทำไม่ดีแล้วไปส่งเสริมสังคมจะวุ่นวายเสียหายตามมา" นายราเมศ กล่าว

ส่วนที่บอกว่าคนสื่อสารไม่มีเครดิต เรื่องนี้สังคมเป็นผู้ตัดสิน คนมีเครดิต คือ คนที่ต้องสนับสนุนกัญชาเสรีให้พี้กันทุกหลังคาเรือนใช่หรือไม่ และที่บอกว่าวันนี้ (19พ.ย.) พูดอย่าง พรุ่งนี้ทำอีกอย่าง ประเด็นนี้พูดมานานแล้ว ไม่เอากัญชาเสรี วันนี้หรือพรุ่งนี้ ก็เหมือนเดิมยืนยันหลักการนี้ สนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนให้พี้กันอย่างเสรี 

ประการที่สาม ที่บอกว่าตอนร่วมรัฐบาลยอมรับนโยบายพรรคอื่น แต่พอจะเลือกตั้งก็ไปขัดขาพรรคอื่น ประเด็นนี้ได้เคยพูดไปแล้วว่า นโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2562 ไม่มีเรื่องให้สังคมพี้กัญชากันอย่างเสรี มีอยู่ในหน้าที่ 31 ข้อ 4 ตอนท้าย ที่ได้ระบุไว้เรื่องกัญชากัญชงว่า "ศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการใช้ กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์อุตสาหกรรมทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างรายได้ของประชาชน โดยกําหนดกลไกการดําเนินงาน ที่รัดกุม เพื่อมิให้เกิดผลกระทบทางสังคมตามที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด" 

อย่างไรก็ตาม นโยบายรัฐบาลไม่มีเรื่องกัญชาเสรีแน่นอน และในส่วนของพรรค ไม่จำเป็นต้องไปขัดขาพรรคการเมืองใด เพราะส่วนมากคนที่ล้ม เพราะขาตัวเองขัดกันทั้งนั้น และเรื่องกัญชาที่ทักท้วงเป็นการทำหน้าที่ในบทบาทฝ่ายนิติบัญญัติ คือ การพิจารณาร่างกฎหมาย ติติงกันตามระบบ มีแต่ความห่วงใยต่อสัมคมทั้งสิ้น ดังนั้น ที่บอกว่าคนพูดไม่มีความรับผิดชอบ อยากถามกลับเหมือนกันว่า ถ้าเป็นคนรับผิดชอบต้องสนับสนุนกัญชาเสรีใช่หรือไม่ ประโยชน์ของส่วนรวม คือ ต้องการให้กัญชาเสรีใช่หรือไม่ 

"เรื่องนี้ควรว่ากันตามกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ อย่ามาโจมตีพรรคการเมืองอื่นเลย ประชาชนเบื่อหน่ายไม่เกิดประโยชน์ในการโต้เถียงกันไปมา เพราะในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์หากมีการพาดพิงโจมตี ก็มีความจำเป็นที่ต้องออกมาชี้แจงทำความเข้าใจเช่นกัน และเรื่องนี้ที่จำเป็นต้องออกมาก็เพราะมีการพาดพิงโจมตีก่อนเช่นกัน" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ