"พงศ์สินธุ์"ยันไม่เคยทิ้งพรรคแต่ถูกปชป.ลอยแพย้ำมีคนรอจ่อคิวโบกมือลาอีก

18 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์" น้องชาย "นายเทพไท เสนพงศ์" อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวตอบโต้ในประเด็นการลาออกจากพรรค โดยมีเนื้อหาดังนี้

"ขอชี้แจงข้อกล่าวหา จากรองโฆษก ปชป.

จากกรณีที่รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแถลงข่าวพาดพิงถึงตัวผมว่า ลาออกจากพรรคแล้ว อย่าเผาบ้านตัวเองนั้น เป็นการให้ข่าวที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ทำให้ผมได้รับความเสียหาย

จึงขออนุญาตชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า ตั้งแต่ผมตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคัดเลือกผู้ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ผมจึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทั้งครอบครัว โดยไม่เคยให้ข่าวใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์แต่ประการใด มีแต่พูดความจริงอย่างตรงไปตรงมาว่า ผมไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้เกียรติกับครอบครัวเสนพงศ์ ที่เคยสนับสนุนและทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอดอย่างไรบ้าง

เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งผมลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค ก็เป็นสิทธิ์ส่วนตัวของผม ในการตัดสินใจจะไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่น ที่ผมเห็นว่า เป็นพรรคการเมืองที่ดี เปิดโอกาสให้ผมทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนได้

แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ปล่อยให้รองโฆษกพรรค ออกมาฟาดงวงฟาดงา ในลักษณะฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ออกมาให้ข่าวใส่ร้ายพาดพิงให้ผมได้รับความเสียหาย

ถ้าหากยังใช้นิสัยอันถาวรรังแกสมาชิกพรรคแบบนี้ระวังว่า จะมีสมาชิกพรรคลาออกจากพรรคอีก ซึ่งผมเชื่อว่า ผมไม่ใช่คนสุดท้ายที่ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน

สำหรับกำหนดการยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของผมต่อนายทะเบียนพรรค (นายวิรัช ร่มเย็น) ในวันนี้นั้น ผมได้รับแจ้งจากพรรคว่า พรรคหยุดทำการเนื่องจากเป็นวันหยุดช่วงการประชุมเอเปค จึงขอเลื่อนออกไปก่อน และจะแจ้งให้ทราบต่อไป"

"จากการให้สัมภาษณ์ของ "พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ" พาดพิงถึงผม เรื่องสำนึกทางการเมืองนั้น

ผมขอเรียนชี้แจงว่า ผมทำงานทางการเมืองโดยยึดถือมารยาททางการเมืองเป็นหลัก แม้ว่าจะเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ แต่ครอบครัวผมเป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์มานานพอสมควร ได้ช่วยเหลือสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ทั้งครอบครัว ถ้าจะกล่าวหาว่าได้ดิบได้ดี เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยอมรับได้ระดับหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันพี่ชายผม คือ คุณเทพไท ก็ได้ต่อสู้ ปกป้องพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าสมาชิกพรรคหลายคน ที่อยู่ในพรรคเกาะกระแสพรรค ได้ประโยชน์จากพรรคเต็มๆ

ในทางการเมือง ถ้าผมไม่ยึดมารยาททางการเมือง ผมคงไม่รอจนถึงวันที่พรรคประกาศตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมคงยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคไปนานแล้ว แต่เพราะผมเห็นว่าขอให้กระบวนการของพรรคสิ้นสุด และมีการประกาศอย่างเป็นทางการก่อน ผมถึงจะแสดงความจำนงลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค

ครอบครัวผมเป็นครอบครัวนักการเมืองบ้านนอก รู้จักมารยาททางการเมือง และสำนึกในบุญคุณของพรรคมาโดยตลอด ผมย้ำอยู่เสมอว่าครอบครัวผมไม่ได้ทิ้งพรรค แต่คนของพรรคต่างหากที่ทิ้งครอบครัวผม จนทำให้ผมต้องลาออกไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น

เพราะฉะนั้นคนที่มากล่าวหาผม ในเรื่องมารยาทและความกตัญญู ก็ควรกลับ ไปส่องกระจกดูตัวเองเสียก่อนว่า มีคุณสมบัติในเรื่องเหล่านี้ครบถ้วนหรือไม่ หรือเพียงต้องการโหนกระแส เพื่อเอาใจใครบางคนในพรรค

ผมขอเรียนให้ทราบว่า ถ้ายังมีการจัดตั้งให้คนของพรรคประชาธิปัตย์ เรียงหน้ามาตอบโต้ผม ผมก็ขอสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้ทุกเม็ดเช่นกัน 

ผมไม่ใช่คนอยากดัง แต่ผมต้องการปกป้องสิทธิ์ของผมและรักษาความถูกต้อง เพียงขอทำความจริงให้ปรากฎเหมือนกับคำขวัญของพรรคที่ว่า สัจจฺเว อมต วาจา ความจริงคือสิ่งไม่ตาย