“อันวาร์” ไม่กลับ ปชป. จ่อซบ พปชร. ปลื้ม “บิ๊กป้อม” มากบารมี

11 พฤศจิกายน 2565 นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการร่วมงานสัมนา“พลังประชารัฐ พลังคนสร้างชาติ” ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.  ได้พูดถึงตนในการลงพื้นที่ และได้ให้นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล มาพูดคุย และตนได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร แล้ว เงื่อนไขตนอยู่ในเกณฑ์ที่ปฏิบัติได้ และได้แจ้งกับตนว่าวันนี้ (11 พ.ย.65) จะมีการสัมนาของพรรคอยากให้ตนเข้ามาดูการสัมนาของพรรคว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตนเห็นว่าเป็นประโยชน์

ทั้งนี้ก่อนที่จะไปไหน การได้รู้ข้อมูลมากที่สุดน่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับตนและประชาธิปัตย์ ตนไม่อยากล้มเหลว และไม่อยากเปลี่ยนพรรคไปเรื่อยๆ เท่าที่ดูพลังประชารัฐก็ไปกับตนได้ ฟังวันนี้เป็นประเด็นที่ตนจะนำกลับไปพูดกับประชาชนในพื้นที่ และขอมติจากประชาชนว่าควรจะอยู่พรรคไหน โดยตนจะไปพูดกับประชาชนในช่วงสิ้นเดือนนี้ และในวันนั้นอาจจะมีการพูดถึงพรรคการเมืองทุกพรรคที่มีไมตรีจิตมาถึงตน พรรคใดเป็นอย่างไร และเราไปทางไหนได้บ้าง มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ข้อมูลเหล่านี้สำคัญมาก คนที่ตัดสินใจว่าตนไปที่ไหนคือคนในพื้นที่ และประชาชนในเขตตน 

ส่วนที่มาในวันนี้ตัดสินใจได้เลยหรือไม่จะร่วมงานกับ พปชร.ได้เลยหรือไม่ นายอันวาร์ ระบุว่า ตนจะนำข้อดีของแต่ละพรรคไปหารือกับประชาชนก่อน เพราะการตัดสินใจอยู่ที่ประชาชน

ส่วนกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถเดินไปด้วยกันได้แล้วหรือไม่นั้น นายอันวาร์ กล่าวว่า ชัดเจนอยู่แล้วว่าตนไม่ได้สังกัดพรรคนี้แล้ว และสมัยหน้าตนคงไม่อยู่กับประชาธิปัตย์แล้ว

ส่วนมีหลายพรรคหรือไม่ที่ติดต่อมา นายอันวาร์ กล่าวว่า มีหลายพรรคซึ่งหลายคนมีเงื่อนไขมีนโยบายที่มีประโยชน์กับประชาชนและทุกพรรคมีสิ่งดีๆ แต่ในส่วนของเงื่อนไข 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ตัดสินใจ คือ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การทำให้คนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มีความสุข ผ่อนคลายจากการตึงเครียด เรื่องอุตสาหกรรมฮาลาล เชื่อมโยงกับคนในพื้นที่เพื่อให้คนทั่วโลกสนใจ และ อาชีพหลักของ จ.ชายแดนใต้โดยเฉพาะปัตตานีและนราธิวาส มีเขตแดนที่ติดกับทะเล การประมงถือเป็นเส้นเลือดหลักที่เป็นรายได้ของคนในพื้นที่ 

ทั้งนี้ แสดงว่าพรรคที่สังกัดจะต้องมีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอันวาร์ กล่าวว่า ต้องเป็นแกนนำ ไม่เอาพรรคแกนนอน นอนอย่างเดียว แล้วทำอะไรไม่ได้ไม่เอาแล้ว ส่วนหมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ นายอันวาร์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดถึงใครจะเข้าใจว่าอย่างไรก็แล้วแต่

ส่วนตัวคิดว่า พปชร.จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายอันวาร์ กล่าวว่า การเป็นแกนนำรัฐบาลองค์ประกอบสำคัญคือต้องมีเสียงข้างมาก บวกกับเสียง ส.ว. 250 คนที่จะโหวตในวันนั้นด้วย ซึ่งมันมีผลอยู่แล้ว ตนคิดว่าถ้าบวกกับเสียงของ พปชร. ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ซึ่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พล.อ.ประวิตร ด้วยใช่หรือไม่ นายอันวาร์ กล่าวว่า ดูทั้งหมด แต่ตนมองข้อจำกัดในพื้นที่ของตน ไม่ใช่ว่าจะเลือกอะไรได้ทุกอย่าง การจะแก้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ใช่ว่าทุกพรรคจะทำได้ ต้องเป็นพรรคที่มีอำนาจ และเป็นรัฐบาล โดยเฉพาะความมั่นคงของประเทศ ซึ่งจะมีผลในการตัดสินใจด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ตนมองว่าบางคนมีอำนาจรัฐสามารถเป็นผู้นำรัฐบาลได้ แต่บางคนไม่มีอำนาจรัฐแต่มีบารมี และถ้ามีอำนาจรัฐเข้าไปอยู่กับคนบารมี ยิ่งทำให้เขามีภาพพจน์ที่ดีได้

ส่วนพื้นที่ทางใต้รับ พล.อ.ประวิตรได้ใช่หรือไม่ นายอันวาร์ กล่าวว่า ใครก็แล้วแต่ที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้ ทำให้เขาได้เห็นความหวัง คนนั้นก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้นำ

สำหรับปรากฏการณ์เลือดไหลออกจากพรรคประชาธิปัตย์นั้น  นายอันวาร์ มองว่า คงเป็นไปตามข่าว ตนพูดมานานแล้วและพยายามเสนอตอนที่อยู่ในพรรคหลายสิบฉบับว่าหากไม่ทำแล้ววันนี้พรรคจะไปเจอสถานการณ์อะไร แต่วันนี้ขอไม่พูดถึงแล้ว ตอนอยู่ในพรรคตนพยายามจะเป็นหมอ แล้ววันนี้หมอ 2 คนที่อยู่ในพรรคก็อยู่ไม่ได้ คือ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่เพิ่งลาออก ตนเองก็อยู่ในสถานภาพอย่างนั้น