27 ตุลาคม 2565 "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "Accelerating Thailand เร่งเครื่องประเทศไทย" ณ ห้อง A1 บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลักการสำคัญที่ตนใช้เป็นแนวทางในการทำงาน Get Things Done สิ่งต่างๆให้เกิดขึ้นจริง ต้องเตรียมความพร้อมให้ประเทศ สำหรับอนาคตเพื่อลูกหลานคนรุ่นใหม่ ต้องวางรากฐานตั้งแต่วันนี้ (27ต.ค.) หลายปีที่ผ่านมาหากย้อนกลับไป ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีปัญหามากทางการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้รัฐบาลยุ่งหลายสมัย มีความยากลำบาก ในการที่จะทำเรื่องสำคัญ ที่จำเป็นต่อการเดินหน้าประเทศ
ทั้งนี้ ซึ่งผลตามมาก็คือทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเวทีระดับโลกค่อยๆลดลง คนไทยกว่า 70 ล้านคนนั้นเสียโอกาส ทั้งๆที่ไทยนั้นอยู่ในประเทศที่มีความพร้อมทุกอย่าง การที่ตนต้องทำสิ่งต่างๆให้เกิดขึ้นให้ได้นั้น ต้องมีเป้าหมาย ทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า บนเส้นทางที่จะเติบโตและเจริญรุ่งเรือง ไปทั่วทุกหย่อมหญ้าและยั่งยืน เป็นเส้นทางที่คนไทยทุกคนนั้น จะต้องจับมือไปด้วยกัน และจับมือกับประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงสังคมโลก แต่เรื่องใหญ่มีเรื่องที่จะต้องทำจำนวนมากเกินที่จะทำได้ทั้งหมดพร้อมกัน จึงต้องเรียงลำดับความสำคัญ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนมุ่งเป้า คือ ยกระดับความมั่งคั่งไปทั้งประเทศ ยกระดับความรุ่งเรืองไปทุกพื้นที่ ทำเรื่องที่จะสร้างประโยชน์ให้กับคนทุกระดับในสังคม สร้างพื้นฐานที่เอื้อให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้ บนเส้นทางที่ยั่งยืน ตนให้ความสำคัญกับการสร้างความรุ่งเรืองให้กับคนไทยทุกระดับสังคมเพราะเป็นการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงแข็งแรงให้เกิดขึ้น เดินหน้าไปสู่การปรับแก้สิ่งต่างๆ ที่เป็นประเด็นทางสังคมทั้งความยุติธรรมความเท่าเทียม ในการเข้าถึงโอกาสการทำมาหากิน ซึ่งเป็นพื้นฐานทำให้สังคมอยู่บนความสงบสุขและมั่นคง นำพาประเทศไปข้างหน้า นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ตนเคยกล่าวไปแล้ว ว่าตนพยายามขับเคลื่อน ก่อนจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เพราะจะเป็นสิ่งที่สร้างโอกาสให้คนไทยนับล้านคนให้มีความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
โดยแกนยุทธศาสตร์ คือ โครงสร้างพื้นฐาน การสร้างความมั่งคั่งให้กระจายไปอย่างกว้างขวางไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีการที่เร่งรีบฉาบฉวย แบบจ่ายเงิน แต่จะต้องทำให้ประเทศมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีโดยเฉพาะการคมนาคมขนส่ง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาทุกประเทศก็เป็นเช่นนี้ การที่จะมีเข้ามาระบบคมนาคมขนส่งทางรางถนน สนามบิน ท่าเรือขนส่ง และโครงสร้างพื้นฐานด้านฟิสิกส์
อย่างไรก็ตาม ท่านที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้คนสามารถซื้อข้าวของได้ในราคาที่ถูกลง นำพานักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง เข้าสู่ประเทศได้มากขึ้น และจะทำให้นักท่องเที่ยวเหล่านั้นสามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศได้มากขึ้นด้วย นี่ถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับประชาชนทุกคน สามารถทำมาหากินช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันตนได้ริเริ่มโครงสร้างพื้นฐานที่ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ในปี 2015
สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งในอนาคต ประเทศไทยจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมและก้าวเข้าสู่เทรนด์โลกให้ได้ ซึ่งอุตสาหกรรมนี้คือหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ ที่จะสร้างความมั่งคั่งได้เป็นอีกสิบๆปี และโอกาสสร้างความกินดีอยู่ดีให้กับคนเป็นล้านคน รวมไปถึงรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมต่อเนื่อง คือ 1 ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ วันนี้เมื่อโลกเปลี่ยนไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทำให้ผู้ผลิตยางยนต์ปัจจุบันและผู้ผลิตรายใหม่เลือกที่ตั้งผลิตในประเทศต่างๆ
"เราจะต้องเดินหน้าดึงอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์เข้ามาในประเทศไทย ผมได้ขับเคลื่อนสุดกำลังเพื่อให้ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายใหม่สำคัญของโลกเข้ามาเลือกไทยเป็นฐานการผลิต รวมไปถึง ต้องให้พวกเด็กยานยนต์ในประเทศยังคงใช้ไทยเป็นฐานผลิตต่อไป โดยหากทำสำเร็จจะทำให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองไปอีก 20-30 ปี ข้างหน้า โดยประเทศไทยจะต้องกลายเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีที่สำคัญอีกด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนการเกษตรสมัยใหม่จะได้มีการนำเทคโนโลยีวิจัยและนวัตกรรมมาปรับโครงสร้างทางการผลิต มุ่งไปสู่เกษตรปลอดภัย ลงทะเบียนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น เชื่อมโยงทุกภาคส่วนในแต่ละพื้นที่เพื่อที่จะให้เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและราคาสูงขึ้น นอกจากนี้จะสร้างความรุ่งเรืองให้แผ่กว้างในภาคธนาคาร ซึ่งถือเป็นภาพส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยประเทศได้เป็นอย่างมาก และการเติบโตในระยะยาวของธนาคาร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเจริญของประเทศเพียงอย่างเดียว
แต่ความเจริญเกิดขึ้นเป็นวงกว้างและเท่าเทียมด้วย แม้ว่าเงินกู้ของธนาคารเป็นสิ่งสำคัญที่เพิ่มคิดความสามารถให้กับประชาชนเพิ่มขีดความสามารถให้กับประชาชน แต่ครึ่งหนึ่งของประชาชนไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ แม้จะมีความคิดสามารถต่อยอดธุรกิจได้ หากช่วยคนกลุ่มนี้ได้จะสามารถปลดล็อกศักยภาพของคนอีกกลุ่มหนึ่ง สร้างความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจได้ เป็นบันไดขั้นแรกในการสร้างความร่ำรวย เพื่อเชื่อมไทยให้เดิน
โดยนายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า ก่อนเปิด 3 เส้นทางเชื่อมต่อ ตนขอเรียกว่าเชื่อมไทยเดินหน้า ไทยเดินมาไกลแล้ว และคงต้องต่อสู้ต่อไป ขอขอบคุณความร่วมมือของพรรคร่วมรัฐบาล และสิ่งสำคัญคือสปิริตของคนไทย ที่พร้อมร่วมมือกันเสียสละบางอย่างเพื่อประโยชน์ของประเทศในวงกว้าง
ทั้งนี้ นายกฯยังกล่าวตอนหนึ่งว่า ท่าเรือแหลมฉบัง ได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพได้ภายใน 2 ปี ซึ่งเทียบเท่า กับการก่อสร้างมาตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตนไม่ได้ว่าใคร แต่เป็นเพียงการยกตัวอย่างเท่านั้น
ขณะเดียวกัน การก่อสร้างระบบราง โดยตั้งเป้าจะยกระดับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้เทียบเท่ากับโตเกียว และลอนดอน ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองพูดกันไปพูดกันมาตั้งแต่ปี 2005 เปลี่ยนระบบเปลี่ยนเส้นทางกลับไปกลับมาเป็น 10-20 ปี ก็ยังไม่พร้อมที่จะเริ่มก่อสร้างหลังจากตนเข้ามาจับเรื่องนี้ ก็ตัดสินใจเด็ดขาดและสั่งการเมื่อปี 2016 และภายใน 1 ปีก็เริ่มก่อสร้างได้ทั้ง 2 สาย
ส่วนการผลักดันเทคโนโลยีดิจิทัล ขณะนี้กำลังจับมือ กับหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยี ที่สำคัญที่สุดของโลก และเป็นผู้ให้บริการ คลาวน์คอมพิวติ้ง ที่ใหญ่ที่สุดของโลก คือ Amazon เว็บเซอร์วิส โดยยืนยันว่าจะมาตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคที่ประเทศไทย จะนำเงินทุนต่างชาติ เข้าประเทศอย่างมหาศาล ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยมากกว่า 1.9 แสนล้านบาท
โดย 3 แกนหลักของตน สามารถยกระดับรัฐสวัสดิการให้กับประชาชนทั้งประเทศได้ ยอมรับว่าโครงการต่างๆใช้เวลาพอสมควร ซึ่งจะต้องผสมผสานความเข้าใจและความอดทน ทำให้สามารถทำตามแผนเลิกเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา วิจัยซ้ำๆ แต่ทำให้เกิดขึ้นจริง การที่จะเป็นผู้นำให้ประสบความสำเร็จ จะต้องมีความอดทนและความเข้าใจ ที่ได้อาจจะไม่สมบูรณ์ 100% แต่ทำให้ใช้งานต่างๆเกิดขึ้นมาได้ จะไม่ทิ้งรอยแตกร้าวอย่างถาวรของคนกลุ่มต่างๆ
ขณะเดียวกัน ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายคนบอกว่าตนใจร้อนเกินไป ใจเย็นเกินไป ตนต้องการผสมผสานความแข็งก้าวของตน เพื่อให้เดินหน้ากับความยืดหยุ่นเพื่อให้หลายกลุ่มหลายฝ่ายเดินไปด้วยกันได้ แน่นอนว่าหลายครั้งตนอาจจะไม่ได้ทำทุกอย่างตามที่ตนต้องการ ซึ่งต้องเตรียมความสำคัญ ทำให้ตนเสียเพื่อน เสียมิตร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนนั้นต้องยอมแลก แต่เป็นสิ่งที่จำเป็น ที่จะทำสิ่งต่างๆให้จำเป็นกับประเทศเกิดขึ้นให้ได้ ขอให้ทุกคนเข้าใจความตั้งใจของตนที่จะพยายามขับเคลื่อนสิ่งต่างๆให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ ในมุมมองของคนภายนอกมองว่ามีแต่เรื่องวุ่นวาย
"การบริหารประเทศบางครั้งอาจมีอุปสรรคมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้าง ซึ่งในมุมมองของคนภายนอกซึ่งอาจเห็นว่า มีแต่เรื่องวุ่นวาย แต่ในที่สุดแล้ว ขอให้ทุกคนดูผลลัพธ์ที่โครงสร้างเหล่านั้นเกิดขึ้นได้จริง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องต่างๆ เป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง แต่เราไม่ควรที่จะไขว้เขวหรือเสียสมาธิไปจากเรื่องใหญ่ๆ เรื่องสำคัญๆของประเทศ เพราะเรารู้ว่าในที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรมาทดแทนผลงานจริงได้ และสิ่งสำคัญของประเทศจะไม่เกิด นั่นคือเหตุผลที่ผมเลือกใช้เวลาของผมมุ่งมั่นไปกับการทำงานใหญ่ให้กับประเทศ ทำให้มันเกิดขึ้นจริงให้ได้และเตรียมประเทศของเราให้พร้อมสำหรับอนาคต"