26 ตุลาคม 2565 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รองหัวหน้าพรรค นายสิทธิชัย โค้วสุรัตน์ อดีตรมช.มหาดไทยและคณะ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ ประกอบด้วยนายประมวล ศรีแสง ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ เขต 2 นายเฮงธนกฤติ คำโสภา ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 3 และนายไชยยงค์ รัตนวัน ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 8
โดยมีการเปิดเวทีปราศรัยพบปะประชาชน 2 เวที ที่อ.น้ำเกลี้ยง และอำเภอกันทรารมณ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งประชาชนให้การต้อนรับอย่างคึกคักกว่าสามพันคน ต่างแย่งกันเข้ามาขอถ่ายรูป เข้ามากอดมาหอมแก้ม และส่งเสียงเชียร์ให้”สุดารัตน์เป็นนายกลูกอีสาน”
โดยชาวบ้านต่างพูดว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นคนจริงใจ ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่มี ก็คอยช่วยเหลือประชาชนอยู่ตลอด จึงมั่นใจและฝากความหวังไว้กับคุณหญิงสุดารัตน์ อยากได้เป็นนายกคนอีสาน เพื่อให้คนอิสานได้รับการดูแลให้ได้รับโอกาสมากขึ้น
ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ร่วมกันจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ ฟ้อนรำวัฒนธรรมอีสานใต้ เป็นการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ศรีสะเกษเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงด้านการเกษตร ที่สามารถปลูกพืชได้หลายชนิด ทั้งหัวหอม กระเทียม ข้าว มันสัปะหลัง ทุเรียน และยางพารา จึงต้องได้รับการพัฒนาอย่างครบวงจร แต่เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าปุ๋ย ที่แพงกว่าเท่าตัว รวมถึงค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันเพื่อการเกษตร ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระอย่างแสนสาหัส ขาดทุนอย่างยับเยิน เพราะราคาขายไม่สอดคล้องกับต้นทุน
พรรคไทยสร้างไทย ขอประกาศว่าจะทำให้คนไทยหายจนภายใน 3 ปี ซึ่งจะสำเร็จได้ด้วย 2 ปัจจัย คือการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน และเสริมสร้างพลังอำนาจให้กับประชาชน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยปัจจัยแรก ต้องยกระดับกรรมการหมู่บ้านเป็น “สภาชุมชน” ให้มีอำนาจตัดสินใจใช้งบประมาณ สามารถตรวจสอบการดำเนินงานต่างๆในชุมชนได้ ซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางตรง ที่เป็นการตัดสินใจแบบล่างขึ้นบน ที่จะทำให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง และเกิดความโปร่งใส ถือเป็นนโยบายที่ปฏิวัติการการจัดทำงบประมาณจากพรรคไทยสร้างไทย
และปัจจัยที่ 2 ต้องเสริมสร้างพลังอำนาจ (Empower) ให้กับเกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ โดยเบื้องต้นจะดำเนินการพักชำระหนี้เกษตรกรทั้งต้น และดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้เกษตรกรสามารถกลับมาทำมาหากินได้ และจะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อลดต้นทุนการผลิต และส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่ม ทำการแปรรูป เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร โดยเติมความรู้ เติมทุน และเติมการตลาด
ซึ่งเป็น 2 ปัจจัยหลัก ที่เป็นกลไกจากพรรคไทยสร้างไทย ที่จะทำให้ชุมชนทั่วประเทศมีความเข้มแข็ง ด้วยการขับเคลื่อนของ”สภาชุมชน” และการรวมกลุ่มของเกษตรกร โดยรัฐสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุน ความรู้ และตลาด เพื่อทำให้ “คนไทยหายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน”