svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"คุณหญิงพจมาน"เปิดใจครั้งแรกผ่านหนังสือ"ทักษิณ" แอบหวังว่า คงมีสักวัน...

13 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เผย"คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์" เปิดใจครั้งแรก เล่าถึง"ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ นักโทษหนีคดี ผ่านหนังสือ "ทักษิณ ชินวัตร" หลักการและความคิด หวังว่าคงมีสักวันจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน

 

ช่วงเวลาของรัฐบาล"พล.อ.ประยุทธ์"ซึ่งมีวาระการทำงานเหลือเพียงแค่ 5 เดือน จะต้องมีการ"ยุบสภา"เลือกตั้งใหม่ พรรคการเมืองต่างออกมาเคลื่อนไหวเปิดตัวหาเสียงล่วงหน้า เช่นเดียวกับ "พรรคเพื่อไทย" และ กลุ่มคนที่แวดล้อม"ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯซึ่งหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ออกมาเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก 

 

นับเนื่องมาตั้งแต่ "อุ๊งอิ๊งค์" "แพทองธาร ชินวัตร" บุตรสาวทักษิณ ประกาศตัวเป็น "หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย" ร่วมเดินสายไปกับพรรคเพื่อไทย ทำให้บุคคลในครอบครัวทักษิณ ทยอยปรากฎตัวผ่านสื่อขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะเมื่อครั้งที่ "อุ๊งอิ๊งค์" เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ปรากฎว่า "คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์" ผู้เป็นมารดา ปรา กฎกาย ร่วมให้กำลังใจโผเข้ากอด กลายเป็นภาพข่าวหน้าหนึ่ง ตามมาด้วยเสียงวิจารณ์ต่างๆนานา จะออกมามีบทบาททางการเมืองเต็มตัวหรือไม่ จนกระทั่ง "ทักษิณ ชินวัตร" ต้องชี้แจงข้ามประเทศผ่านคลับเฮ้าส์ ไม่เป็นความจริง 

 

\"คุณหญิงพจมาน\"เปิดใจครั้งแรกผ่านหนังสือ\"ทักษิณ\" แอบหวังว่า คงมีสักวัน...


อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของคนในครอบครัวชินวัตร ไม่หยุดเพียงเท่านีั เมื่อ"พรรคเพื่อไทย" แต่งตั้งคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ปรากฎชื่อ "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร  บุตรชายทักษิณ  เป็นที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.65  กับการจัดอีเวนท์ให้ "อุ๊งอิ๊งค์"และชาวคณะเพื่อไทย ขึ้นเวทีเสวนา"ทางออกเศรษฐกิจไทยนับจากทศวรรษนี้"  ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ 

 

ทว่า วันเดียวกันนั้นเอง เป็นวันแรกที่มีการเปิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ โดยมีการเปิดตัวหนังสือ  Thaksin Shinawatra Theory and Thought (ทักษิณ ชินวัตร หลักการและความคิด)    ซึ่ง"อุ๊งอิ๊งค์" พร้อมเหล่าคณะได้ไปร่วมถ่ายภาพเปิดตัวหนังสือของ"นายทักษิณ" ด้วย บ่งบอกให้เห็นถึงการตระเตรียมการไว้ล่วงหน้า 

\"คุณหญิงพจมาน\"เปิดใจครั้งแรกผ่านหนังสือ\"ทักษิณ\" แอบหวังว่า คงมีสักวัน...

 

ความน่าสนใจภายในหนังสือ Thaksin Shinawatra Theory and Thought (ทักษิณ ชินวัตร หลักการและความคิด ) ได้ปรากฎบทสัมภาษณ์  "คุณหญิงอ้อ" พจมาน ดามาพงษ์  อดีตภริยานายทักษิณ  ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เป็นการเปิดใจครั้งแรกผ่านหนังสือเล่มสำคัญ  

 

หนังสือ  Thaksin Shinawatra Theory and Thought (ทักษิณ ชินวัตร หลักการและความคิด)  เป็นหนังสือปกแข็งความยาว 224 หน้า จัดพิมพ์แบบสี่สี  นำเสนอเรื่องราวของนายทักษิณ อดีตนายกฯหนีคดีทุจริตไปอยู่ต่างประเทศ   โดยพยายามอธิบายเรื่องราวความผูกพันในครอบครัวภรรยา ลูก หลาน ช่วงเป็นนักธุรกิจ การก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ได้รับชัยชนะจนได้เป็นนายกฯ ช่วงเวลารัฐประหาร นโยบายต่างๆ รวมทั้งบทสัมภาษณ์

 

หนังสือเล่มนี้ ต้องการให้ผู้อ่านได้เสพมุมมองของบุตรทั้ง 3 คน คือ พานทองแท้ พินทองมา และแพทองธาร ชินวัตร ที่มีต่อทักษิณผู้เป็นบิดา  

 

\"คุณหญิงพจมาน\"เปิดใจครั้งแรกผ่านหนังสือ\"ทักษิณ\" แอบหวังว่า คงมีสักวัน...

 

สำหรับเนื้อหาในหนังสือได้แบ่งออกเป็นหลายภาคส่วน เช่น หลักการความคิด ครอบครัว เพื่อน บุคคลที่ใกล้ชิด เคยทำงานด้วย โดยเนื้อหาการให้สัมภาษณ์บางช่วงบางตอน คาดว่าน่าจะมีการจัดทำมาก่อน เนื้อหาคำพูดบางส่วนได้ถูกเผยแพร่ผ่านบทสัมภาษณ์เปิดใจเมื่อวันที่ 26 ก.ค.เนื่องในวันคล้ายวันเกิด 73 ปี ของทักษิณไปแล้ว เช่น การพูดถึงพวกชนชั้นการปกครองที่เขาใช้คำว่า อีลิต และการสั่งเสียต่อครอบครัวว่า ตายไม่เผา ให้เก็บร่างไว้ เป็นต้น

 

 

ขณะที่ในภาคของเนื้อหา Thaksin & Family ตอนเนื้อหา Thaksin’s Reflection ได้มีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ "คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์" ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกในทางการเมือง มีดังนี้ 

 

\"คุณหญิงพจมาน\"เปิดใจครั้งแรกผ่านหนังสือ\"ทักษิณ\" แอบหวังว่า คงมีสักวัน...

 

วันแรกที่คุณทักษิณ เข้าสู่การเมืองจนเป็นนายกรัฐมนตรี คุณหญิงและครอบครัวคุยกันอย่างไร

 

ครอบครัวก็ต้องดีใจเป็นที่สุดค่ะ และคิดกันว่าท่านคงทำหน้าที่นี้ได้อย่างดี เพราะชีวิตท่านก็ผ่านความยากลำบากกว่าจะประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้ ขณะนั้นที่คิด ท่านคงอยากใช้ความสามารถทั้งหมดมาทำประโยชน์ให้ประเทศ

 

ดีใจหรือกังวลถึงความท้าทายที่จะตามมา

 

มองเห็นแต่ความกังวลตามที่คุณย่า(คุณแม่ของคุณทักษิณ) เคยเตือนไว้แล้วว่า การมาทำงานการเมืองมีแต่ความเหน็ดเหนื่อย ถูกใส่ร้ายป้ายสีและอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่ห่วงสุดคือสุขภาพของท่าน

 

คุณหญิงเคยวิจารณ์คุณทักษิณเรื่องอะไรที่ซีเรียสที่สุด เพราะรักและหวังดีที่สุด

 

เคยต่อว่าท่านว่า ท่านเป็นคนทำอะไรจริงจัง งานก็หนัก ความเครียด แรงกดดันก็เยอะมาก ขอให้ท่านดูแลสุขภาพให้ดีไปพร้อมๆกัน

 

เรื่องอะไรที่คุณหญิงกับคุณทักษิณผูกพันกันมากที่สุด

 

โตมาด้วยกัน เจอกันมาตั้งแต่อายุ 15 ท่านอายุ 21 ไปเรียนต่างประเทศด้วยกัน ผ่านความลำบากมาด้วยกัน สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยกัน คิดและทำทุกอย่างด้วยกันทั้งหมด จึงผูกพันยาวนาน

 

วันแรกที่คุณทักษิณถูกรัฐประหาร ความรู้สึกแรกเป็นอย่างไร

 

ตกใจที่สุด เป็นห่วงลูกๆว่าจะปลอดภัยอย่างไร และเราก็ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของรัฐประหารว่าจะลามมาถึงครอบครัวไหม และเราจะต้องตกอยู่ในสภาพไหน

 

คุณหญิงและครอบครัวรับมือกันอย่างไร

 

รับมือด้วยความนิ่ง และดูความปลอดภัยของลูกๆเป็นหลักในตอนนั้น

 

ตอนคุณทักษิณตัดสินใจลี้ภัย ได้คุยอะไรกันบ้าง คุณหญิงบอกอะไรกับคุณทักษิณ

 

เห็นด้วยที่จะให้ท่านอยู่เมืองนอกก่อนและให้ลูกๆ ช่วยคุยกับท่านว่า อย่าให้พ่อกลับมาไทย เพราะตอนนั้นท่านอยากกลับประเทศไทย อยากกลับมาสู้คดี เพราะท่านคิดว่าท่านบริสุทธิ์

 

คุณทักษิณเคยบอกว่า เวลาคิดอะไร ชอบคิดเงียบๆเก็บไว้คนเดียว คุณหญิงคิดว่าเป็นเพราะอะไร

 

ท่านไม่อยากให้ครอบครัวเครียดเลย อันนี้สำคัญที่สุด โดยท่านจะได้ไตร่ตรองจนตกผลึกก่อน แล้วใช้เวลาขับรถไปไกลๆด้วยกัน ค่อยๆเล่าและฟังความคิดต่างๆหรือความคิดเดียวกัน เราทำวิธีนี้ตั้งแต่สมัยเริ่มทำธุรกิจด้วยกันแล้ว การอยู่ด้วยกันสองคนในรถช่วยให้สามารถคุยกันด้วยดี แล้วจบลงได้ เพราะท่านทราบว่า เราคงไม่กระโดดลงกลางทาง(หัวเราะ)

 

วันแรกที่คุณอิ๊งค์ตัดสินใจลงการเมืองเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คุณหญิงและครอบครัวคุยอะไรกันบ้าง

 

ลูกก็มาบอกว่ามีความตั้งใจ พอเห็นความตั้งใจของลูกเลยแล้วแต่ลูก เพราะลูกโตแล้ว เราต้องเคารพในการตัดสินใจและไม่อยากให้ลูกกดดัน ก็คอยสนับสนุนให้กำลังใจเขาห่างๆ

 

คุณทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า เวลามองกระจกแล้วเห็นคุณหญิง รู้สึกสงสารคุณหญิง คิดว่าทำไมคุณทักษิณ ถึงรู้สึกแบบนั้น เพราะอะไร

 

(ยิ้ม)ไม่รู้เหมือนกัน เพราะคำพูดที่เคยเตือน แล้วท่านคงจำได้ดี และตอนนี้ท่านคงเข้าใจแล้ว และคงรู้สึกเศร้า และท่านคงอยากจะกลับมาเลี้ยงหลาน เป็นตายาย ปู่ย่า เหมือนครอบครัวปกติ

 

เรื่องไหนที่ทำให้คุณหญิงและครอบครัวมีความสุขที่สุด แม้ว่าคุณตาทักษิณจะไม่ได้อยู่ด้วย

 

ล่วงเลยมาถึงเวลานี้แล้วก็ขอให้ท่านมีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

 

ในฐานะคุณยาย คุณหญิงฝันอะไร ตั้งความหวังอะไรกับหลานๆ ในวันเวลาที่สังคมไทยมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ค่อนข้างริบหรี่

 

ไม่ได้คาดหวังอะไร อยากให้เขาโตมาร่าเริงแจ่มใส พ่อแม่เขาก็ดูแลกันดีเต็มที่ เพราะคิดว่าเลี้ยงลูกมาอย่างดีแล้ว และลูกก็คงเลี้ยงลูกของตัวเองได้ดีกว่าแน่ แค่อยากเห็นหลานๆเติบโตมาอย่างมีความสุข ร่าเริง สดใสตามวัยกับสุขภาพที่แข็งแรง และรักกัน อย่างอื่นก็ให้เป็นไปตามวันเวลา แต่คุณตาจะได้กลับมาเห็นความเติบโตของหลานๆ ก็แอบคิดว่าคงมีสักวัน แน่นอนที่หลานๆทุกคนจะได้อยู่พร้อมหน้ากับคุณตาอันเป็นที่รัก

logoline