11 ก.ย.65 "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่สภาฯ จะอยู่ครบวาระคือในเดือน มี.ค. 66 ว่า ประเมินว่ามีโอกาสเพียง 20% ณ วันนี้ ไม่ว่าผลการวินิจฉัยของศาลต่อวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" จะเป็นอย่างไร ไม่ติดใจตรงนั้นแล้ว เพราะคาดว่าจะมีการยุบสภาหลังการประชุมเอเปค
"ผมเชื่อว่าผู้มีอำนาจจะคำนึงถึงประโยชน์ของตนเอง หากยุบสภาหลังเอเปค จะสามารถจัดการ ส.ส. ย้ายพรรคได้ ลดกระแสคัดค้านได้ ทั้งนี้ก็ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกระแสตอบกลับว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมกับการเลือกตั้งมากที่สุด"
"หัวหน้าพรรคเพื่อไทย" กล่าวถึงการจับขั้วทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง โดยบอกว่ายังเร็วไปที่จะสรุป แต่เพียงชัดเจนเรื่องการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งว่าพรรคเพื่อไทย ไม่มีเรื่องพรรคพี่พรรคน้อง และไม่มีเรื่องพรรคจับมือก่อนการเลือกตั้งแน่นอน
ทั้งนี้"นพ.ชลน่าน" ยังได้กล่าวถึงพรรคที่แอบอ้างว่าเป็นพรรคพี่พรรคน้อง หาเสียงจนพี่น้องประชาชนสับสน ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ซึ่งเราก็ประกาศชัดแล้วว่าเพื่อไทยไม่มีอย่างนั้น เราบอกพี่น้องว่าเราคือเพื่อไทยเท่านั้น ต้องเลือกให้ชนะเพื่อป้องกันความสับสนที่อาจเกิดขึ้นได้
"ขออนุญาตไม่พูดชื่อพรรคเขา เดี๋ยวเสื่อมเสีย แต่ในพื้นที่ก็มีหลายพรรคพูดเช่นนั้น ใครมีพฤติกรรมเช่นนั้นก็เข้าข่าย" นพ.ชลน่าน กล่าว
ส่วนหลังเลือกตั้งมีโอกาสร่วมงานกับพรรคใดบ้างนั้น "นพ.ชลน่าน" ระบุว่า แนวทางสิ่งที่พูดก่อนการเลือกตั้งจะเป็นเงื่อนไขในการร่วมงานทางการเมืองกัน กรณีการแอบอ้างเพื่อคะแนนเสียงก็มองว่าอาจยังพอคุยกันได้ ไม่ร้ายแรงเท่าการสนับสนุนเผด็จการ เสมือนเป็นนั่งร้านระบอบประยุทธ์ แต่ต้องดูในเนื้องานสาระสำคัญเพราะบางพรรคก็อาจรณรงค์จนทำลายกัน หรือถึงขั้นเปิดช่องยุบพรรคเพื่อไทย เช่นนั้นก็อันตราย
ถามต่อถามถึงโอกาสร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย "นพ.ชลน่าน" ย้ำว่าไม่อยากบอกชื่อพรรค ตามหลักการคือขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและพฤติการณ์ของพรรค หากผ่านการเลือกตั้งมา พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจเขา (พรรคภูมิใจไทย) และมีวิธีการและอุดมการณ์ทำงานร่วมกันได้ จะมาพิจารณา แต่ถ้าสนับสนุนเผด็จการอาจเป็นเงื่อนไขที่ไม่เข้าร่วมด้วย
ส่วนกระแสการปิดสวิตช์ ส.ว. ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะเป็นผลประโยชน์ในการหาเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ "หัวหน้าพรรคเพื่อไทย" ชี้ถ้ามองว่า ส.ว. เป็นปัญหาระบบการเมืองไทย จนแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลใช้เงื่อนไขนี้ เป็นปัญหาจริง ส่วนจะได้รับการตอบรับจากประชาชนหรือไม่ มองว่าไม่ใช่ประเด็นหลักประเด็นเดียวในการหาเสียง แต่พรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าเป็นพรรคประชาธิปไตย ทำเพื่อพี่น้องประชาชน ย้ำว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญใหม่ให้ได้
สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับที่รัฐสภาเพิ่งมีมติไปนั้น "นพ.ชลน่าน" ยอมรับว่าสมัยประชุมหน้า คงไม่คิดแก้อีก เพราะฟังจาก ส.ว. พูดที่ผ่านมา เราคงไม่เสนออีก แต่จะผลักดันใส่เป็นนโยบายให้เป็นฉันทามติของพรรคเพื่อไทยด้วยเสียงของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าเป็นสัปดาห์สุดท้ายของสมัยประชุมสภาฯ มองว่า งานที่ค้างอยู่คือกฎหมายที่จะต้องเร่งรัดอย่างน้อย 2 ฉบับที่สำคัญ แต่พรรคร่วมรัฐบาลพยายามผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง ซึ่งฝ่ายค้านฯ ต้องพิจารณาอย่างระมัดระวังว่า กมธ. ปรับแก้ว่าตอบโจทย์กับประเทศหรือเปล่า
"การใช้กัญชาในทางการแพทย์ ฝ่ายค้านฯ เราสนับสนุน ดังนั้น กฎหมายที่เขียนออกมาต้องทำเพื่อการแพทย์จริง ไม่เปิดทางทำอย่างอื่น เราต้องการรอบคอบพอสมควร"
ส่วนของฝ่ายค้านฯ คือ ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ และร่าง พ.ร.บ. อ้อยและน้ำตาลทราย ซึ่งผ่านการแก้ไขโดยวุฒิสภาแล้ว สอบถามทุกฝ่าย สามารถรับได้ ถ้าผู้แทนไม่มีประเด็น ถือว่าสภาฯ เห็นชอบตามที่วุฒิสภาแก้ไข สามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้เลย ก็เป็นกฎหมายได้รวมทั้ง 2 ฉบับ
คลิป>>>> เพื่อไทยประเมินสถานการณ์ทางการเมือง