เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
1 กันยายน 2565 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์กับ "เนชั่นทีวี" ถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า ขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติได้เตรียมตัวผู้สมัครไว้แล้วบางส่วน โดยจะเริ่มทยอยเปิดตัวในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งมีทั้ง อดีตคนเสื้อแดง ส.ส.ต่างพรรคที่เคยอยู่คนละขั้ว อย่างเพื่อไทย ภูมิใจไทย ที่จะมาเปิดตัวลงสมัครส.ส.ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งเป้าเลือกตั้งครั้งหน้ากวาดที่นั่งส.ส. 40-50 ที่นั่ง
ส่วนการแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะสู้กันดุเดือดหรือไม่ มองว่า ด้วยกติกาการเลือกตั้งที่เปลี่ยนมาใช้บัตร 2 ใบ การจะใช้กระแสความนิยมของพรรคการเมืองมาเป็นตัวเรียกคะแนนเสียงเหมือนการเลือกตั้งครั้งก่อนก็คงไม่ได้แล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการสู้กันระหว่างคนในพื้นที่ ดังนั้นคะแนนส.ส. เขต จึงสำคัญ ต้องดูว่าผู้สมัครคนไหนจะถูกใจประชาชนมากกว่า
"ย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่พรรคสาขา หรือพรรคนั่งร้านของใคร โดยตั้งใจจะทำพรรคให้เป็นสถาบันการเมือง และจะขอชู นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า นายพีระพันธุ์ มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ เนื่องจากเป็นคนชัดเจน เด็ดขาด มีประสบการณ์ มีความสามารถด้านกฎหมาย ดังนั้นจึงเหมาะที่จะเป็นผู้นำในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน "
เมื่อถามว่าขณะนี้สถานการณ์การเมืองไม่แน่นอน และมีการคาดการณ์ว่าอาจมีการยุบสภารวดเร็วขึ้น พรรคสร้างใหม่จะได้รับผลกระทบหรือ ไม่ นายเอกนัฏ บอกว่า ในส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้รับผลกระทบ และไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตีความปมนายกฯ 8 ปี ออกมาอย่างไร ก็ไม่กระทบต่อการเดินหน้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ
ส่วนประเด็นที่ผ่านมามีคนมองว่า พรรครวมไทยสร้างชาติสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ นายเอกนัฏ บอกว่า วันนี้ชาวบ้านต้องการพรรคการเมืองที่ชูการแก้ปัญหาให้กับประชาชน ตนไม่อยากไปขัดแย้งหรือแบ่ง ฝ่ายกับใคร ไม่สนใจว่าชอบ3 ป. หรือไม่ชอบ 3 ป. วันนี้ขอเดินหน้าหาตัวผู้สมัครที่ถูกใจคนในพื้นที่ พร้อมเตรียมนำเสนอนโยบายแนวทางแก้ปัญหาให้ปชช.จะดีกว่า
ส่วนภาพลักษณ์กปปส.ที่ อาจจะติดตัวและมีกระแสต้าน นายเอกนัฏ บอกว่า สำหรับการชุมนุม กปปส.เป็นเรื่องที่จบไปแล้ว ไม่อยากให้ไปขุดอดีตมาเป็นตัวกำหนดการเดินต่อไปในอนาคต วันนี้มาตั้งพรรคการเมืองเพราะมีสิ่งที่อยากทำ มีความฝันที่อยากจะเดินทางการเมืองตามแนวทางที่ตนเลือกเอง ยืนยันไม่มีใครบงการอยู่เบื้องหลัง