"อรรถวิชช์"โอด 1 ก.ย.แก๊ส-ไฟฟ้าขึ้นราคาทำเอกชนรวย-ปชช.ระทวย

1 กันยายน 2565 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า เริ่มวันที่ 1 ก.ย.นี้ ประชาชนอ่วมหนัก เดือดร้อนทั้งแผ่นดิน ดอกแรก คือ แก๊สหุงต้ม ปรับขึ้นกิโลละ 1 บาท ทุกเดือน มาตั้งแต่เดือนเม.ย. จนถึงขณะนี้แก๊สขึ้นมาแล้ว 6 รอบ ถัง 15 กิโลกรัม ที่ประชาชนใช้กัน ราคาขึ้นมารวมแล้ว 90 บาท ตอนนี้อยู่ถังละ 408 บาทแล้ว ร้านอาหารโดยเฉพาะร้านที่ต้องใช้แก๊สตลอดเวลา เดือดร้อนหนัก ถ้าไม่รีบแก้ จะบานปลายถึงราคาอาหารแน่นอน  

ส่วนดอกสอง คือ ค่าไฟฟ้า เพราะเดือน ก.ย. นี้ ค่า FT ขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี อยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย สูงกว่าต้นปีถึง 67 เท่า ทำค่าไฟพุ่งเป็นหน่วยละ 4.72 บาท สาเหตุไม่ได้มีแค่ค่าเงินบาทกับต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อ้างเท่านั้น แต่เกี่ยวไปถึงการซื้อไฟฟ้าจากเอกชนด้วย

"การไฟฟ้าฝ่ายผลิตรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชน เป็นสัดส่วนถึง 63% ของโครงสร้างราคาค่าไฟฟ้า คิดมูลค่า 440,000 ล้านต่อปี ด้วยเหตุผลเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน มีไฟฟ้าสำรองเพียงพอทุกเดือน แต่หลายเดือนพบว่า มีไฟสำรองสูงเกินกว่า 50% ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภค มีข้อมูลว่าสำรองแค่ 15% ก็เพียงพอแล้ว และเมื่อมีไฟฟ้าสำรองมากเกินแล้ว บางโรงไฟฟ้าก็ไม่ได้เดินเครื่อง แต่รัฐก็ยังต้องจ่ายเงินตามสัญญาแบบไม่ซื้อก็ต้องจ่าย เลยกลายเป็นต้นทุนที่ไปโผล่ในค่า FT ที่ประชาชนต้องเสียค่าไฟเกินความจำเป็น แต่กำไรไปโผล่เอกชน" นายอรรถวิชช์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม พรรคกล้าพยายามเสนอทางแก้ เก็บกำไรส่วนเกินจากเอกชน มาเป็นภาษีลาภลอย เพื่อควบคุมความผันผวนของราคาพลังงาน พรรคเสนอมาหลายเดือน แต่ไม่มีความคืบหน้า ไม่สงสัยเลยที่คนพูดว่า "รัฐเกรงใจทุนใหญ่ ทุกข์กลับอยู่ที่ประชาชน" จนถึงวันนี้ (1 ก.ย.) ยังไร้มาตรการช่วยเหลือ