รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และนักวิชาการด้านกฎหมาย สะท้อนมุมมองกรณีอำนาจหน้าที่ของรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีว่า สำหรับความเห็นส่วนตัว ตนมองว่า รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีไม่สามารถยุบสภา และ แต่งตั้งรัฐมนตรี ได้ อำนาจหน้าที่ทั้งสองอย่างต้องเป็นนายกฯ เท่านั้น
“การยุบสภา และการแต่งตั้งรัฐมนตรี เป็นพระราชอำนาจซึ่งผู้ที่จะถวายคำแนะนำในสองเรื่องนี้ต้องเป็นตัวนายกฯ ถ้าไม่มีตัวนายกฯ ต้องไปดำเนินการให้ได้มาซึ่งนายกฯ มันยังมีกลไกในการได้มาซึ่งนายกฯ อีกทั้ง เรายังไม่ได้ไปจนกระทั่งสุดหนทางที่จะมีนายกฯ เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องโดยตรงของผู้เป็นนายกฯ ดังนั้นรักษาการนายกทำไม่ได้”
รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวย้ำอีกว่า ในส่วนของการเสนองบประมาณ การโยกย้ายข้าราชการ รักษาการนายกฯสามารถทำได้ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ทั่วไปของนายกฯ เรื่องที่ใช้อำนาจและทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีร่วมกับบรรดารัฐมนตรี อื่นๆ ทำได้
แต่ถ้าสำหรับตนเห็นว่า มี 2 เรื่องที่ทำไม่ได้ คือ ยุบสภา และแต่งตั้งรัฐมนตรี ไม่ได้ เพราะเป็นพระราชอำนาจที่นายกฯ ต้องเป็นผู้ถวายคำแนะนำเท่านั้น
นักวิชาการด้านกฎหมายท่านนี้ ตั้งข้อสังเกตอีกว่า
ตลอดที่ผ่านมาไม่มีการตั้งรัฐมนตรีเลย เพราะบอกยังไม่มีเหตุจำเป็น พอมาตอนนี้มีรักษาการนายกรัฐมนตรี เกิดจะตั้งรัฐมนตรีตรีขึ้นมา เอาแค่ว่าความจำเป็นเร่งด่วน มันก็ไม่มี
นอกจากนั้น ภาวะการณ์แบบนี้ จะยุบสภา มันสมควรทำหรือไม่ รอบคอบ คิดให้ถี่ถ้วนก่อนหรือไม่ และควรให้คนเป็นนายกฯทำหรือไม่
สุดท้ายคือ ทำไมต้องเป็นนายกฯ อย่าลืมว่า ส.ส. ทั้งสภา หรือส.ส.ฝ่ายเสียงข้างมาก ที่มาจากการเลือกตั้งของ ประชาชน เลือกบุคคลคนหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี เรื่องที่เป็นเรื่องสำคัญของการทำหน้าที่ฝ่ายบริหารคือการมีรัฐมนตรี มันควรเป็นเรื่องของคนคนนั้น ที่สภาซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน
เรื่องยุบสภายิ่งไปกันใหญ่ การยุบสภา เท่ากับล้างคนที่พี่น้องประชาชนเลือกตั้งมาทั้งแผ่นดินออกหมดเลย ควรเป็นคน ที่สภาเลือกคนนั้นๆไม่ใช่คนที่รักษาการ แม้กระทั้งนายกฯรักษาการ สมมุติวันหนึ่งนายกฯ พ้นตำแหน่งและต้องอยู่รักษาการ นายกฯรักษาการก็ทำไม่ได้ รักษาการนายกก็ทำไม่ได้