23 ส.ค. เวลา 12.05 น.ที่ศาลปกครองกลาง"ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่" อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวภายหลังเข้ารับฟังคำสั่งศาล กรณีสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเมื่อเวลา 11.30 น.ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งหลังพิจารณาคำร้องอุทธรณ์ ระบุให้ ผศ.ดร.สืบพงษ์ ดำรงตำแหน่ง"อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง"ต่อไป จนกว่าจะมีคำสั่งอื่นใดเพิ่มเติมออกมา
โดย "ผศ.ดร.สืบพงษ์" กล่าวว่า รู้สึกโล่งใจที่ได้รับความยุติธรรม จากนี้จะทำหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงต่อไป แม้ว่าสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง จะมีการนัดประชุมผู้บริหารถี่ขึ้น ใช้งบประมาณมากขึ้น และประเด็นในการประชุมจะเป็นเรื่องการหามูลเหตุความไม่ไว้วางใจตนเป็นหลัก แต่ที่ผ่านมาไม่รู้สึกกังวล เพราะข้อกล่าวหาต่างๆไร้หลักฐานที่เชื่อถือได้ และไม่มีมูลเหตุมากพอ สามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น วันนี้รู้สึกโล่งใจที่ได้รับความยุติธรรมจากศาล จากนี้จะทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เพื่อนักศึกษาและมหาวิทยาลัยรามคำแหง
สิ่งที่ยืนยันได้ในวันนี้มี 2 ข้อคือ 1.ไม่ได้กระทำผิดอย่างที่ร้องเรียน 2.บุคคลที่ร้องเรียนไม่มีตัวตน เมื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ร้องเรียนพบว่าไม่มีตัวตนอยู่จริง นี่คือสิ่งที่ทำให้ตั้งคำถามว่า ถูกกระทำอย่างนี้ เป็นธรรมกับตนเองหรือไม่ จึงต้องอาศัยศาลเป็นที่พึ่งเพื่อความยุติธรรม
"ในขั้นต้นนี้รู้สึกโล่งใจ แต่เรายังไม่รู้ว่าจะมีประเด็นไหนอีกจากการที่สภาฯเรียกประชุมบ่อยๆ ธรรมดาสภามหาวิทยาลัยเรียกประชุมเดือนละครั้ง แต่ช่วงหลังมาประชุมถี่ขึ้นๆ โดยหาเหตุต่างๆเกี่ยวกับผม ส่วนตัวยังมีความกังวลในการทำงานเพราะผมตั้งใจทำงานให้มหาวิทยาลัยและนักศึกษา แต่ก็มีเหตุให้กังวลใจ จากหนังสือร้องเรียนที่ไม่มีตัวตนแต่สภาฯนำมาเป็นประเด็นตลอด การประชุมสภาฯแต่ละครั้งงบประมาณก็ค่อนข้างสูง" ผศ.ดร.สืบพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 24 ส.ค.65 "สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง" ได้มีการนัดประชุม ที่อาคารวิทยบริการและบริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง เวลา 13.30 น. โดยมีระเบียบวาระการประชุมที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง อยู่ในวาระพิจารณา นั่นคือ เรื่องรายงานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องที่อธิการบดีถูกกล่าวหากระทำผิด (การพิจารณาข้อมูลจากสำนักงาน ก.พ.) (วาระลับ) (เอกสารแจกในที่ประชุม) จึงต้องจับตามองการประชุมสภามร. โดยมี"นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่" อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ศาลปกครองกลางเพิ่งวินิจฉัยให้ทำหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งอื่นเพิ่มเติม จะมีท่าทีอย่างไร