"ธนกร วังบุญคงชนะ" อำลาจากเก้าอี้"โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อไปทำหน้าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ แต่ภารกิจของ"หัวหน้าที่กระบอกเสียงรัฐบาล" จะว่างเว้นไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของอายุรัฐบาล"พล.อ.ประยุทธ์" ถือว่ามีความสำคัญในการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์งานรัฐบาล
รายงานจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการตัดสินใจ เลือกบุคคลที่เหมาะสม ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง "โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี"คนใหม่แทน"นายธนกร วังบุญคงชนะ"
ตัวเลือกที่อยู่ในใจของพล.อ.ประยุทธ์เบื้องต้นมีจำนวน 4 ราย ซึ่งล้วนเป็นคนใกล้ตัว
เริ่มตั้งแต่ "นายอนุชา บูรพชัยศรี" รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ชื่อของ"อนุชา" เคยดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี เมื่อปี 2563 โดยก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ) เมื่อมีการแต่งตั้ง"โฆษกรัฐบาล" อนุชาก็อยู่ในโผแรก พร้อมๆกับ "ธนกร วังบุญคงชนะ" (โฆษกพรรคพปชร.ขณะนั้น ) และ นายทศพล เพ็งส้ม ทีมกฎหมายของพรรค และเป็นไปตามคาด "อนุชา" ได้รับแต่งตั้งเป็นโฆษกรัฐบาลมาได้สองปีก่อนที่จะลาออก โดย "ธนกร" ได้รับแต่งตั้งโฆษกรัฐบาลแทน เป็นไปได้สูงที่ฟากการเมืองจะสนับสนุนให้ "อนุชา บูรพชัยศรี" กลับมารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง
รายที่สอง "นายสกลธี ภัททิยกุล" อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่เคยสังกัดค่ายประชาธิปัตย์ และร่วมเคลื่อนไหวในนามกลุ่มกปปส. ก่อนที่จะเข้ามาสังกัด"พรรคพลังประชารัฐ" ยิ่งในช่วงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. "สกลธี" หรือ "จั้ม" เดินเข้าออกตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอแรงสนับสนุนจากพล.อ.ประยุทธ์ ในการลงชิงชัยผู้ว่าฯกทม. แต่สุดท้าย เขาก็ลงสมัครในนามอิสระ
กระนั้นความสัมพันธ์ของเขากับ พล.อ.ประยุทธ์ แนบแน่น เพราะ เจ้าตัวเป็นบุตรชายนายทหาร"พล.อ.วินัย ภัททิยกุล" อดีตเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ว่ากันว่า "จั้ม" ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองมีโอกาสได้นั่งเก้าอี้ "โฆษกรัฐบาล "
รายที่สาม"นายเสกสกล อัตถาวงศ์" หรือ "แรมโบ้อีสาน" อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นอีกรายที่เดินเข้าเดินออกทำเนียบกับหลายตำแหน่ง โดยช่วงที่ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรมต.ประจำนายกรัฐมนตรี เจ้าตัวทำหน้าที่เสมือนโฆษกรัฐบาลเฉพาะกิจ เพราะทุกครั้งที่มีประเด็นข่าวจากฝ่ายตรงข้ามพล.อ.ประยุทธ์ "แรมโบ้อีสาน" ขันอาสาตอบโต้ข่าวสารกับฝ่ายการเมืองตรงกันข้ามอย่างถึงพริกถึงขิง
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น หลังจาก"เสกสกล" ลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี จากปมคลิปเสียงอันอื้อฉาวโควต้าหวย จนกระแสข่าวซาลง "เสกสกล"กลับมาสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แต่มิวาย เจ้าตัวตัดสินใจลาออกจากพรรคพลังประชารัฐอีกแล้ว โดยเตรียมไปรับตำแหน่ง"หัวหน้าพรรคเทิดไท" ดังนั้น โอกาสที่จะเป็นตัวเลือกแรกๆของพล.อ.ประยุทธ์ ในการกลับมาทำหน้าที่"โฆษกรัฐบาล" ก็คงต้องคิดรอบด้านพอสมควร
รายสุดท้าย "นายวรัชญ์ ครุจิต" รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการสถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้า และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค. ถือว่าเป็นบุคคลที่น่าจับตามองเช่นกัน เนื่องจากมาทางสายวิชาการด้านสื่อสารมวลชน อีกทั้งมีผลงานโดดเด่นในการให้ข้อมูลความรู้ความเข้าใจประชาชนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
ไม่เพียงเท่านั้น "นายวรัชญ์ ครุจิต" ยังคอยเผยแพร่ข้อมูลการดำเนินงานของรัฐบาลผ่านทางเพจส่วนตน ซึ่งบ่อยครั้งที่มีขบวนการปล่อยข่าวบิดเบือนหรือสร้างความเข้าใจผิด นักวิชาการรายนี้คอยทำหน้าที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องอย่างทันท่วงที
หลังจากนี้ "พล.อ.ประยุทธ์" จะเลือกใครในดวงใจ มาปฏิบัติภารกิจในช่วงเวลาการบริหารงานของรัฐบาลเหลืออยู่ไม่มากนัก และเป็นการทำงานท่ามกลางแรงกดดันต้องเร่งผลักดันผลงานสร้างความเข้าใจประชาชน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ส.ค.65 นายกรัฐมนตรีลงนามคำสั่งสำนักนายกฯ แต่งตั้ง อนุชา บูรพชัยศรี อดีตโฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง