เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
11 ส.ค.65 "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังนายไมเคิล ฮีธ (Mr. Michael Heath) อุปทูตรักษาราชการชั่วคราว สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าอำลาเพื่อเดินทางกลับประจำที่ กรุงวอชิงตันดีซี ว่า ที่ผ่านมาไทยและสหรัฐอเมริกาได้มีความร่วมมือกันมาอย่างดีโดยตลอดโดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งสหรัฐอเมริกาได้ส่งวัคซีนมาไทยจำนวนหลายล้านโดส รวมถึงเรื่องยาและวัคซีนที่ไทยสั่งซื้อกับบริษัทยาของสหรัฐฯ
ส่วนประเด็นทางการเมืองภายในประเทศถือเป็นเรื่องของไทย แต่ตนก็ได้ชี้แจงกับทางอุปทูตสหรัฐฯว่า หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นรัฐบาลชุดนี้จะอยู่จนถึงเดือนมีนาคม 2566 ทั้งนี้เมื่อถามว่ามีการชี้แจงเกี่ยวกับกระแสข่าวการยุบสภากับอุปฑูตสหรัฐฯหรือไม่นั้น "นายอนุทิน" ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีเกิดกระแสไม่พอใจ และตำหนิ ที่ประชุมสภาล่มระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร "นายอนุทิน" กล่าวว่า จะตำหนิคนอยู่ได้อย่างไร ต้องตำหนิคนล่มซิ ตนเองอยู่ร่วมประชุมจนถึงช่วงขานชื่อ เช็คองค์ประชุม ส่วนที่จำนวนเสียงในการลงมติน้อยกว่าจำนวนสมาชิกที่ขานชื่อเช็คองค์ประชุม นายอนุทิน มองว่า เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกแต่ละคน
ทั้งนี้เมื่อถามว่าในฐานะที่อยู่ในที่ประชุมได้ยินข่าวเรื่องพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อไม่ผ่านความเห็นชอบ นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้ยิน ในส่วนของภูมิใจไทยไม่มีใครมาติดต่ออะไร เนื่องจากมีจุดยืนชัดเจน และไม่ขอแสดงความเห็นว่าหากข่าวเป็นเรื่องจริงเป็นการกระทำที่น่าเกลียดหรือไม่ เพราะมองว่า เป็นเอกสิทธิ์ของบุคคลที่จะตัดสินใจจะใช้เอกสิทธิ์อย่างไร และประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าทำถูกหรือทำผิด หากมองว่าเป็นสิ่งที่ผิดก็จะไม่ถูกเลือกกลับมา แต่ถ้าตัดสินใจถูกเป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็ได้กลับมา ฉะนั้นจึงอย่าสร้างความขัดแย้งอะไรระหว่างกันต้องเคารพเอกสิทธิ์ ในส่วนของกฎหมายลูกที่พรรคเล็กพยายามเสนอขอเปิดประชุมในวันเสาร์ - อาทิตย์นี้เพื่อให้ทันกรอบระยะเวลา 180 วัน นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ แต่ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยทำตามกติกา เมื่อรัฐธรมนูญแก้เป็นใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้วเราก็พร้อมที่จะทำตามไม่สนว่าจะหารด้วย 100 หรือ 500 ภูมิใจไทยหารอะไรก็ได้
แต่ส่งผลต่อการตัดสินใจส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้ส.สแต่ละพื้นที่ ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องทำให้เกิดความ ชัดเจนคือเรื่องส.ส.พึงมีที่ยังไม่มีใครสามารถบอกคำจำกัดความได้ ดูแล้วน่าจะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอยู่ดี
เมื่อถามถึงความหวังในการเลือกตั้งครั้งต่อไปต้องการส.ส.กี่ที่นั่งเพราะประชาธิปัตย์ต้องการที่นั่งในพื้นที่ภาคใต้ 35-40 ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า ความหวังกับความเป็นจริง จะทำอะไรก็ต้องหวัง แต่หากทำเต็มที่แล้วไม่ได้อย่างที่หวังเราก็ไม่เสียใจ
ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยจะลงพื้นที่จังหวัดพังงาซึ่งเป็นบ้านเกิดของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ นายอนุทิน ระบุว่า เป็นการแย่งกันรับใช้ประชาชนไม่เป็นอะไร ไม่ใช่เรื่องที่น่าเกลียด ใครก็ไปบุรีรัมย์ อุทัยธานีก็ได้
เมื่อถามว่าช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีชื่อนายอนุทินเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชี้แจงว่า มีชื่อตน เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องพร้อมเป็นนายก หากปี62 ประชาชนเลือกผู้แทนของภูมิใจไทยสัก 150-200 คน ตอนนี้ตนคงได้เป็นนายกฯแต่ประชาชนยังไม่ได้เลือกมากขนาดนั้นก็ยัง มีโอกาสทำประโยชน์ให้ประชาชน มา 3 ปีกว่าแล้ว และหวังว่าจะได้รับการพิจารณาที่ดีจากประชาชน เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคภูมิใจไทยจะเป็นกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ก็ต้องเป็นเช่นนั้นเพราะก่อนหน้าปี62 พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคใหม่ไม่เคยมีผลงานอะไรเลยจึงได้มาประมาณ 50 เสียง มาทำหน้าที่ 3 ปี ก็น่าจะได้รับการพิจารณาจากประชาชนในทางที่ดี พร้อมยอมรับว่าสนใจจะลงชิงพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยได้ชวนผู้ที่มีความสนใจและคุ้นเคยกับพื้นที่มาร่วมงาน