svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

เจ้าของโนเบลสันติภาพช่วยให้ “ทรัมป์” ไม่เสียหน้า

“มาเรีย โครินา มาชาโด” สามารถทำให้โลกเกิดสันติภาพได้จริง ด้วยการโทรศัพท์หา โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อบอกว่า เธอยอมรับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา

11 ตุลาคม 2568 หลังจากคณะกรรมการโนเบล ตัดสินใจมอบรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพให้แก่ "มาเรีย โครินา มาชาโด" ผู้นำฝ่ายค้านของ “เวเนซุเอลา” โดยยกย่องว่า เธอเป็น "สตรีที่คอยรักษาเปลวไฟแห่งประชาธิปไตยให้ลุกโชนท่ามกลางความมืดมิดที่เพิ่มมากขึ้น" แทนที่จะเป็นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำให้โลกเฝ้าจับตามองด้วยความกังวลว่า "นอร์เวย์" ซึ่งเป็น "บ้าน"ของคณะกรรมการโนเบล จะถูกตอบโต้ด้วยความรุนแรงระดับใด เนื่องจากยากที่จะคาดเดาความคิดของผู้นำสหรัฐฯ ที่ชอบให้ตัวเอง "มีแสง" อยู่ตลอดเวลา

หลังการประกาศผล สตีเวน เจิง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารประจำทำเนียบขาว โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดีย X ว่า คณะกรรมการฯ ได้ "พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการเมืองมากกว่าสันติภาพ"

ขณะที่หลายฝ่ายชี้ว่า “นอร์เวย์” ไม่เพียงต้องปกป้องความเป็นกลางของคณะกรรมการโนเบลซึ่งเป็นอิสระเท่านั้น แต่ยังต้องเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ตั้งแต่ "วาทกรรมที่รุนแรง" ไปจนถึง "คำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของนอร์เวย์" ด้วย

“ทรัมป์” ไม่ได้ปิดบังความปรารถนาที่จะได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เขามักอ้างถึงการแทรกแซงของเขา ที่สามารถยุติสงคราม 7 ครั้งได้ ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนที่แล้ว  เขาได้บอกกับผู้เข้าร่วมว่า "ทุกคนต่างพูด" ว่าเขาควรได้รับรางวัลนี้

เจ้าของโนเบลสันติภาพช่วยให้ “ทรัมป์” ไม่เสียหน้า

ผู้สันทัดกรณีชี้ว่า สำหรับ “ทรัมป์” การที่รางวัลตกไปเป็นของคนอื่น เสี่ยงต่อการถูกมองว่าเป็นความอัปยศครั้งล่าสุดในชีวิตที่ถูกปฏิเสธโดยชนชั้นนำ ซึ่งตามมาด้วยคำถามว่า เขาจะระบายความขุ่นเคืองนั้นออกมาอย่างไร โดยเฉพาะการที่รางวัลโนเบล เป็นที่ยอมรับในระดับโลกและเป็นเครื่องหมายของความเป็นเลิศ และเป็นที่ปรารถนาของ “ทรัมป์” ที่เป็นคนชอบ "วัดค่าของแบรนด์อย่างบ้าคลั่ง"

ความหลงใหลในรางวัลโนเบลของ “ทรัมป์” เริ่มขึ้นเมื่อศัตรูทางการเมืองของเขาในตอนนั้นอย่าง อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้รับรางวัลนี้ในปี 2009 เพียงไม่กี่เดือน หลังจากเข้ารับตำแหน่ง แม้แต่ผู้สนับสนุนของ “โอบามา” ยังยอมรับว่ารางวัลนี้ เป็นมากกว่าเกียรติที่สมควรได้รับ

เดอะ การ์เดียน (The Guardian) รายงานว่า “นอร์เวย์” เตรียมรับมือกับปฏิกิริยาของ “ทรัมป์” ในกรณีที่เขาไม่ได้รับรางวัลเอาไว้แล้ว ซี่งอาจเป็นการเรียกเก็บภาษี หรือเรียกเก็บเงินสนับสนุนการเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เพิ่ม หรืออาจถึงขั้นประกาศให้ “นอร์เวย์” เป็นศัตรูไปเลย

แต่ล่าสุด “ทรัมป์” ได้บอกว่า “มาชาโด” ได้โทรศัพท์ถึงเขาและบอกว่า เธอยอมรับรางวัลเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา เพราะเขาสมควรได้รับมันจริงๆ เธอยังโพสต์เป็นภาษาอังกฤษบน X ด้วยว่า

"ฉันขออุทิศรางวัลนี้ ให้กับผู้คนที่กำลังทุกข์ทรมานในเวเนซุเอลาและประธานาธิบดีทรัมป์ สำหรับการสนับสนุนอย่างเด็ดขาดต่อจุดยืนของเรา!" (I dedicate the prize to the suffering people of Venezuela and to President Trump for his decisive support of our cause!)

 

"ซึ่งสมแล้วกับรางวัลที่เธอได้รับ เพราะช่วยคลายกังวลให้โลกได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว"