
9 กันยายน 2568 กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ "มาร์โก รูบิโอ" รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้ประกาศคว่ำบาตรบริษัท และบุคคลเกือบ 20 ราย ในเมียนมาและกัมพูชา ฐานมีความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการหลอกลวงระดับโลก มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่สร้างขึ้นจากเหยื่อที่ตกเป็นทาสการค้ามนุษย์
ประกาศของกระทรวงต่างประเทศ ระบุถึงการดำเนินการโดยกระทรวงการคลัง ในการคว่ำบาตรทางการเงินและการทูต ต่อเป้าหมาย 9 ราย ที่ปฏิบัติการในเมืองชเวก๊กโกอันโด่งดังของเมียนมา และอีก 10 รายในกัมพูชา ซึ่ง "จอห์น เค. เฮอร์ลีย์" ปลัดกระทรวงการคลังฝ่ายข่าวกรองทางการเงินและการก่อการร้าย แถลงว่า อุตสาหกรรมหลอกลวงทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่เพียงคุกคามความเป็นอยู่และความมั่นคงทางการเงินของชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนหลายพันต้องตกเป็นทาสยุคใหม่
เขาเสริมด้วยว่า เมื่อปีที่แล้ว ชาวอเมริกันต้องสูญเงินมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์จากปฏิบัติการหลอกลวงที่เกิดขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้ ในบรรดาบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร รวมทั้ง ทิน วิน, ซอ มิน มิน อู และชิต ลินน์ เมียง โก ที่กระทำการในนามของ "กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง" ซึ่งให้ความคุ้มครองปฏิบัติการฉ้อโกงครั้งใหญ่นี้ ยังมี เจ้อ จื้อเจียง ผู้ก่อตั้ง "หยาไถเมืองใหม่" ในชเวก๊กโก
ขณะที่บริษัทหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาก็ถูกคว่ำบาตรเช่นกัน ภายใต้พระราชบัญญัติแมกนิตสกี (Magnitsky Act) ซึ่งเป็นกฎหมายของสหรัฐฯ ที่กำหนดบทลงโทษ เช่น การห้ามวีซ่าและอายัดทรัพย์สินต่อบุคคลต่างชาติ ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และห้ามมิให้พวกเขาเดินทางเข้าสหรัฐฯ และทำธุรกรรมธนาคาร
ส่วนในกัมพูชา สหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตร ตง เล่อเฉิง, ซู อ้ายหมิน เฉิน อัล เลน และซู เหลียงเซิง พร้อมด้วยบริษัทอีก 6 แห่ง ที่พวกเขาเกี่ยวข้อง เนื่องจากมีบทบาทในการเปลี่ยนโรงแรม อาคารสำนักงาน และคาสิโนหลายแห่งให้กลายเป็นแหล่งฉ้อโกง
"เมียนมา" กับ "กัมพูชา" กลายเป็นศูนย์กลางของการหลอกลวงทางไซเบอร์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งปฏิบัติการหลอกลวงเหล่านี้ ดำเนินการโดยเครือข่ายอาชญากรที่มักมีความเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมของจีน เพื่อหลอกเอาเงินจากเหยื่อทั่วโลก เป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี
แผนการเหล่านี้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "การเชือดหมู" (pig-butchering) เกี่ยวข้องกับการที่นักต้มตุ๋นสร้างความสัมพันธ์เสมือนจริงกับเหยื่อ ก่อนที่จะโน้มน้าวให้พวกเขาลงเงินไปกับการลงทุนที่ไม่มีอยู่จริง แต่หลายคนที่ดำเนินการหลอกลวงเหล่านี้ ล้วนเป็นเหยื่อเอง ด้วย พวกเขาถูกหลอกล่อมาจากต่างประเทศ ด้วยคำสัญญาว่าจะได้งานที่มีรายได้ดี
แต่กลับถูกควบคุมตัว ที่มักกระทำด้วยความรุนแรง แม้ว่าจะหาตัวเลขที่แน่ชัดได้ยาก แต่หน่วยงานช่วยเหลือของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันปิดตัวลงแล้ว ได้ประมาณการว่ามีเหยื่อประมาณ 150,000 คน ติดอยู่ในพื้นที่ควบคุมของศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา ขณะที่รัฐบาลไทย ประมาณการว่า มีเหยื่อราว 100,000 คน ตกเป็นทาสยุคใหม่ในเมียนมา
"ชเวก๊กโก" ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามชายแดนประเทศไทย กลายเป็นข่าวพาดหัว ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากทางการไทยได้ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งเหยื่อชาวต่างชาติหลายพันคนที่ถูกหลอกกลับไปยังประเทศของพวกเขา