svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ตำรวจบราซิลบุกบ้านอดีตผู้นำ สวมกำไลข้อเท้ากันหลบหนี

ตำรวจบราซิลบุกค้นบ้าน "อดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร่" ศาลสูงสั่งสวมกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์กันหลบหนีออกนอกประเทศ มีโอกาสติดคุกหลายสิบปี

19 กรกฎาคม 2568 ตำรวจบราซิลบุกค้นบ้านพักและสำนักงานใหญ่ทางการเมืองของ อดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ตามหมายศาลที่ออกโดยผู้พิพากษาอเล็กซังเดร เดอ โมราเอส แห่งศาลสูงสุด และให้สวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์ที่ข้อเท้า เพราะเกรงว่าเขาอาจหลบหนีไปต่างประเทศ ห้ามพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ต่างชาติ หรือติดต่อสถานทูตต่างๆ ห้ามออกนอกเคหสถานยามค่ำคืน และห้ามใช้โซเชียล มีเดีย ในระหว่างที่กำลังมีการพิจารณาคดีเขาในข้อกล่าวหาวางแผนพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 2565 เพื่อรักษาอำนาจ

อดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร แห่งบราซิล

โบลโซนาโรวัย 70 ปี ยืนยันว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด และการถูกสวมกำไลข้อเท้าเป็น "ความอัปยศอดสูอย่างที่สุด" และเขา "ไม่เคยคิดที่จะออกจากบราซิล" แม้ว่าเขาจะให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า เอดูอาร์โด ลูกชายของเขาซึ่งเป็นสภาคองเกรสแห่งชาติบราซิล และอยู่ระหว่างการไปขอความช่วยเหลือที่กรุงวอชิงตัน ดีซี จะไม่กลับบราซิลและจะยื่นขอสัญชาติเพื่อเป็นพลเมืองสหรัฐฯ

ด้านตำรวจอ้างหมายศาลระบุว่า เขากับลูกชายสมคบคิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่บราซิล เพื่อให้ส่งผลดีโดยตรงต่อตัวเขา" และตำรวจยังได้ยึดเงินสกุลดอลลาร์ไปประมาณ 14,000 ดอลลาร์ แต่โบลโซนาโรยืนยันว่า เป็นเงินส่วนตัว และมีใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐาน
อดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร แห่งบราซิล

การบุกค้นบ้านอดีตผู้นำบราซิล ยังมีขึ้นในขณะที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ พยายามบีบให้ประธานาธิบดีหลุยส์ อิกนาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำคนปัจจุบัน ยุติการดำเนินคดีอาญากับโบลโซนาโร ด้วยการขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากบราซิลในอัตรา 50% ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ตามจดหมายที่เขาโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย "ทรู้ธ โซเชียล" (Truth Social) ของเขา

ซึ่งเนื้อหาในจดหมายได้เชื่อมโยงคำขู่ขึ้นภาษีนำเข้า กับการพิจารณาคดีโบลซานาโร ที่เขาเรียกว่าเป็นการ "ล่าแม่มด" ตอกย้ำข้อกล่าวหาของศาลสูงสุดบราซิลที่ระบุว่า โบลโซนาโรกับลูกชายร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการกำหนดภาษีนำเข้า โดยมีหลักฐานการหารือลับๆ ระหว่างโบลโซนาโรกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และเน้นย้ำถึงจดหมายของทรัมป์ว่าเป็น "การรุกราน" และ "ภัยคุกคามชัดเจน" ต่ออำนาจอธิปไตยของบราซิล
ประธานาธิบดีหลุยส์ อิกนาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล

ประธานาธิบดีดา ซิลลา หรือที่เรียกกันว่า "ลูล่า" ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ CNN ว่า คำขู่ของทรัมป์ถือว่า หลุดออกจากกรอบของ "พิธีการ" และชะตากรรมของอดีตประธานาธิบดีนั้น ไม่สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาการค้าได้

โดนัล ทรัมป์