svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ชาวฟิลิปปินส์ใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอม ตัดสินชะตาตระกูลมาร์กอส-ดูเตร์เต

ชาวฟิลิปปินส์ใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอมครั้งสำคัญ ที่เป็นการวัดพลังระหว่างสองตระกูลการเมืองที่ใหญ่ที่สุด นำโดยประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ และรองประธานาธิบดีซารา ดูเตร์เต หลังความสัมพันธ์แตกร้าว

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวฟิลิปปินส์ราว 68 ล้านคนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอมที่มีการชิงตำแหน่งทั้งระดับประเทศและท้องถิ่นรวมกว่า 18,000 ตำแหน่งในวันจันทร์ (12 พฤษภาคม) โดยมีทั้งการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 317 ที่นั่ง, วุฒิสภา 12 ที่นั่งจาก 24 ที่นั่ง, ผู้ว่าการรัฐ, นายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเมือง และหน่วยเลือกตั้งจะปิดลงคะแนนในเวลา 19.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 18.00 น.ตามเวลาไทย

การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแย่งชิงอำนาจและวัดบารมีของตระกูลการเมืองมาร์กอส และตระกูลดูเตร์เต ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ถึงจุดแตกหักระหว่างประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ และรองประธานาธิบดีซารา ดูเตร์เต ที่เป็นบุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต

ชาวฟิลิปปินส์ใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอม ตัดสินชะตาตระกูลมาร์กอส-ดูเตร์เต

การเลือกตั้งครั้งนี้มีเดิมพันสูงมาก โดยนอกจากจะเป็นเหมือนการลงประชามติชี้วัดคะแนนนิยมของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ เสียงสนับสนุนต่อนโยบายของเขา และอิทธิพลของเขาต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2571 ที่เขาไม่สามารถลงสมัครได้อีกสมัย เพราะรัฐธรรมนูญจำกัดให้ดำรงตำแหน่งได้สมัยเดียวมีวาระ 6 ปี

ขณะเดียวกันผลเลือกตั้งจะวัดเสียงสนับสนุนของตระกูลดูเตร์เต และโอกาสของรองประธานาธิบดีดูเตร์เตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2571 แม้เธอยังไม่เคยประกาศว่าจะชิงตำแหน่ง แต่ได้รับการคาดหมายอย่างกว้างขวางว่า เธอจะแข่งขันกับผู้สมัครที่ประธานาธิบดีมาร์กอสสนับสนุน

ชาวฟิลิปปินส์ใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอม ตัดสินชะตาตระกูลมาร์กอส-ดูเตร์เต

นอกจากนี้ผลเลือกตั้งที่ถูกจับตามากที่สุด คือ ตำแหน่งวุฒิสมาชิก ที่เป็นการแข่งขันระหว่างฝ่ายผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี และหากประธานาธิบดีมาร์กอสได้เสียงในวุฒิสภามากขึ้น อาจจะทำให้สามารถลงมติเห็นชอบถอดถอนรองประธานาธิบดีดูเตร์เตข้อหาใช้งบทางการอย่างไม่ถูกต้องได้สำเร็จ ซึ่งมติถอดถอนต้องได้เสียงสนับสนุน 2 ใน 3 หรือ 16 เสียง และหากถูกถอดถอน เธอจะไม่สามารถลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีได้

ขณะเดียวกันอีกสิ่งที่น่าจับตา คือ อดีตประธานาธิบดีดูเตร์เต วัย 80 ปี ลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา เมืองบ้านเกิด แม้เขากำลังถูกพิจารณาคดีข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ในศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ที่กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากการทำสงครามกวาดล้างยาเสพติด ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 คน

ชาวฟิลิปปินส์ใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอม ตัดสินชะตาตระกูลมาร์กอส-ดูเตร์เต

และเซบาสเตียน ดูเตร์เต ลูกชายซึ่งปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา ลงชิงตำแหน่งคู่กับพ่อด้วย ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะแบ่งสรรอำนาจกันอย่างไร หากทั้งคู่ได้รับเลือกตั้ง ที่ผ่านมาอดีตประธานาธิบดีดูเตร์เตเคยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา 22 ปี ก่อนได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2559

ขณะที่วุฒิสมาชิก อีมี มาร์กอส พี่สาวของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ หันไปพึ่งเสียงสนับสนุนของรองประธานาธิบดีดูเตร์เต เพื่อโอกาสชนะเลือกตั้งอีกสมัย เนื่องจากตระกูลดูเตร์เตมีฐานเสียงสำคัญในภาคใต้