คณะพระคาร์ดินัลจำนวน 133 รูป ที่อายุต่ำกว่า 80 ปี และมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกสมเด็จพระสันตะปาปา องค์ที่ 267 เดินเข้าโบสถ์น้อยซิสทีน ในนครรัฐวาติกันเพื่อเข้าร่วมการประชุมลับ หรือ คอนเคลฟ ในเวลา 16.30 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.30 น. ตามเวลาไทย และให้สัตย์สาบานว่าจะรักษาความลับของการประชุม
ครั้งนี้เป็นการประชุมเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาที่มีพระคาร์ดินัลเข้าร่วมมากที่สุด และพระคาร์ดินัล 108 รูป ได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน และคอนเคลฟครั้งนี้เป็นหนึ่งในครั้งที่มีความหลากหลายที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีพระคาร์ดินัลจาก 71 ชาติใน 6 ทวีปเข้าร่วม และ 15 ชาติเข้าร่วมเป็นครั้งแรก
ในระหว่างที่โป๊ปฟรานซิสทรงเป็นพระประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกยาวนาน 12 ปี พระองค์ทรงแต่งตั้งพระคาร์ดินัลจากหลายประเทศที่ไม่เคยมีพระคาร์ดินัลมาก่อน ซึ่งรวมถึง เฮติ, มาเลเซีย, เมียนนมา, ปารากวัย และสิงคโปร์
ในระหว่างการประชุมลับ พระคาร์ดินัลจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยจะไม่มีการใช้โทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต หรือสื่อใดๆ เพื่อให้การตัดสินใจเป็นอิสระ และปราศจากอิทธิพลจากภายนอก
การลงคะแนนในวันแรกจะมีเพียงรอบเดียว ส่วนวันถัดไปจะแบ่งเป็นช่วงเช้า 2 รอบ และช่วงบ่าย 2 รอบ และพระคาร์ดินัลจะเขียนชื่อผู้ถูกเลือกลงในบัตร ก่อยหย่อนลงในภาชนะทองคำ ส่วนผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ จะต้องได้รับเสียงอย่างน้อย 2 ใน 3 ของพระคาร์ดินัลที่ลงคะแนนทั้งหมด หรืออย่างน้อย 89 เสียง
หากคะแนนที่ออกมายังไม่ได้ข้อสรุป ก็จะมีการเผาบัตรลงคะแนน พร้อมกับการใส่สารเคมีที่ทำให้ควันเป็นสีดำออกจากปล่องควันบนหลังคาโบสถ์ เพื่อเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ต่อคริสตศาสนิกชนทั่วโลกว่า ที่ประชุมยังไม่สามารถสรรหาโป๊ปองค์ใหม่ แต่หากมีผู้ได้รับคะแนนเสียงตามที่กำหนด ก็จะเผาบัตรลงคะแนนพร้อมกับใส่สารเคมีที่ทำให้ควันมีสีขาว เพื่อประกาศว่า เลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ได้แล้ว
แต่หาก 13 วันแล้ว ยังไม่มีใครได้รับคัดเลือก จะจัดการแข่งขันระหว่างผู้ได้คะแนนสูงสุด 2 คน และผู้ที่ได้รับเสียง 2 ใน 3 จึงจะได้เป็นโป๊ปองค์ใหม่ การประชุมเลือกโป๊ป 2 ครั้งที่ผ่านมาในปี 2548 และ 2556 เสร็จสิ้นในวันที่ 2 ของการลงคะแนน
การคัดเลือกโป๊ปองค์ใหม่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญท่ามกลางความคาดหวังและความเห็นที่แตกแยกว่าจะเลือกบุคคลที่ดำเนินรอยตามแนวทางของโป๊ปฟรานซิส ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิรูปรูปคริสตจักรให้มีความโปร่งใสและเปิดกว้างสำหรับกลุ่มบุคคลที่หลากหลายมากขึ้น หรือบุคคลที่ยึดถือรากฐานของคำสอนดั้งเดิม ขณะที่วาระสำคัญ คือ การเลือกบุคคลที่จะสามารถสมานความแตกแยกในคริสตจักรได้
และแม้สื่อเผยชื่อตัวเต็งที่อาจได้รับเลือกเป็นโป๊ปองค์ใหม่ ซึ่งมีหลายรูป รวมถึงพระคาร์ดินัลจากเอเชีย อย่าง ฟิลิปปินส์ แต่ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า แม้โป๊ปองค์ใหม่มักเป็นพระคาร์ดินัลที่เป็นที่รู้จักกว้างขวางในนครรัฐวาติกัน แต่ก็อาจจะเป็นบุคคลที่สร้างความประหลาดใจและไม่เคยรู้จักมาก่อน เช่นเดียวกับพระคาร์ดินัล ฮอร์เก มาริโอ แบร์โกกลิโอ จากอาร์เจนตินา ที่ได้รับเลือกเป็นโป๊ปองค์ที่ 266 ในปี 2556 และมีพระนามว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส