รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศในวันอังคาร (6 พฤษภาคม) ว่าจะขยายเวลาหยุดยิงจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม เพื่อให้มีเวลาสำหรับการฟื้นฟูพื้นความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคม และพัฒนาเศรษฐกิจและเสถียรภาพของประเทศ
แผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดในภูมิภาคสะกาย สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับภูมิภาคสะกายและมัณฑะเลย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,700 คน
รัฐบาลทหารเริ่มหยุดยิงครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 -22 เมษายน ก่อนขยายจนถึง 30 เมษายนเพื่อให้สามารถจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่พื้นที่ประสบภัย ซึ่งอยู่ในพื้นที่สู้รบ
แต่นักวิเคราะห์ มองว่า การประกาศหยุดยิงเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น และรัฐบาลทหารเมียนมาพยายามลดเสียงวิจารณ์จากชาติเพื่อนบ้านในอาเซียนและประเทศอื่น ๆ เพราะยังต้องการความช่วยเหลือในการฟื้นฟูประเทศ
และรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือ NUG ซึ่งเป็นรัฐบาลพลเรือนที่ก่อตั้งขึ้นหลังรัฐประหาร กล่าวหาว่า รัฐบาลทหารยังคงโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่ถล่ม ตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม
ข้อมูลของ NUG ระบุว่า กองทัพยังคงโจมตีทางอากาศ 282 เที่ยวระหว่างวันที่ 28 มีนาคม-4 พฤษภาคม ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 276 คน และบาดเจ็บ 456 คน ซึ่งมีเด็กเสียชีวิต 31 คน และบาดเจ็บ 45 คน นอกจากนี้ภูมิภาคสะกาย ที่เป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหวและพื้นที่เคลื่อนไหวของกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหาร เผชิญการโจมตีหนักที่สุด มีการโจมตีทางอากาศ 73 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิต 89 คน และผู้บาดเจ็บ 135 คน