ไมเคิล อับราโมวิตซ์ ผู้อำนวยการ Voice of America (VOA) ประกาศผ่านเฟซบุ๊กในวันเสาร์ (15 มีนาคม) ว่า เขาและพนักงานเกือบทั้งหมด 1,300 คน ได้รับแจ้งให้หยุดงาน และพนักงานได้รับอีเมลที่แจ้งว่า พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสำนักงานและส่งคืนบัตรผ่านประจำตัวสื่อมวลชนและอุปกรณ์ของสำนักงาน
การประกาศมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันศุกร์ (14 มีนาคม) ให้ลดขนาดของหน่วยงานรัฐบาล 7 แห่ง รวมถึงสำนักงานสหรัฐฯ เพื่อสื่อทั่วโลก (USAGM) ที่กำกับดูแล VOA โดยบอกว่า หน่วยงานเหล่านี้ไม่มีความจำเป็น
USAGM บริหาร VOA และสื่ออื่นของสหรัฐฯ ที่กระจายเสียงในต่างประเทศ เช่น Radio Free Europe/Radio Liberty และ Radio Free Asia โดยได้รับงบสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อรายงานข่าวสารถึงผู้ชมและผู้ฟังทั่วโลกมานานหลายสิบปี และส่งเสริมเสรีภาพและประชาธิปไตย USAGM มีพนักงานเกือบ 3,500 คน และได้รับงบ 886 ล้านดอลลาร์ในปี 2567
USAGM แจ้งหยุดจ่ายเงินสนับสนุนแก่ Free Europe/Radio Liberty ที่กระจายเสียงไปยังยุโรปตะวันออก รวมถึงรัสเซียและยูเครน และ Radio Free Asia ที่กระจายเสียงไปยังจีนและเกาหลีเหนือ
แม้รัฐบาลทรัมป์ มองว่า สื่อกระจายเสียงเหล่านี้สิ้นเปลืองงบและล้าสมัย แต่ผู้สนับสนุน มองว่า การยุบเครือข่ายเหล่านี้เท่ากับสหรัฐฯ ปล่อยให้จีนและมหาอำนาจรายอื่น ๆ ของโลกครอบงำสื่อ ที่จะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศ
ผู้อำนวยการ VOA ระบุด้วยว่า VOA เป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ของสหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์, ฟาสซิสต์ และการกดขี่ข่มเหง และการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตยทั่วโลก สามารถรายงานข่าวใน 48 ภาษา และเข้าถึงประชาชน 360 ล้านคนทั่วโลก
นอกจากนี้สตีเฟน คาปัส ผู้อำนวยการ Raido Free Europe/Radio Liberty ที่เริ่มแพร่กระจายเสียงในเครือข่ายโซเวียตช่วงยุคสงครามเย็น ระบุว่า การตัดงบสนับสนุนเท่ากับเป็นการมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ศัตรูของสหรัฐฯ