
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ รายงานว่า มีรายงานพายุทอร์นาโดมากกว่า 40 ลูกในมิดเวสต์และภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ช่วงวันศุกร์และเสาร์ (15-16 มีนาคม)
และภาพถ่ายดาวเทียมที่บันทึกด้วยอุปกรณ์อินฟาเรดโดยสถาบันความร่วมมือเพื่อการวิจัยในชั้นบรรยากาศของมหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโดและองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ เผยให้เห็นนาทีฟ้าผ่าและอุณหภูมิและความกดอากาศขณะพายุทอร์นาโดก่อตัวได้อย่างชัดเจน
พายุครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างหนัก โดยรัฐมิสซูรีมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 12 คน หลังมีพายุทอร์นาโดหลายลูกพัดกระหน่ำช่วงวันศุกร์และวันเสาร์ ทำให้อาคารบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง และรัฐแคนซัสมีผู้เสียชีวิต 8 คน จากอุบัติเหตุรถชนกัน 50 คัน ช่วงบ่ายวันศุกร์เนื่องจากพายุฝุ่นรุนแรง ส่วนรัฐมิสซิสซิปปีมีผู้เสียชีวิต 6 คน จากทอร์นาโดและพายุฟ้าคะนอง ทำให้ผู้ว่าการรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินในค่ำวันเสาร์ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตจากพายุ 3 คนในรัฐอาร์คันซอ และผู้เสียชีวิต 3 คน จากพายุฝุ่นทำให้รถชนกัน 36 คันในรัฐเท็กซัส ส่วนรัฐโอกลาโฮมามีผู้เสียชีวิต 1 คน
นอกจากนี้มีรายงานไฟดับทั่ว 6 รัฐ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนกว่า 240,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้ และพายุยิ่งเพิ่มความรุนแรงให้กับไฟป่ากว่า 100 จุดในหลายรัฐทางภาคกลาง ซึ่งรวมถึงรัฐโอกลาโฮมา ที่ทำให้ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินใน 12 เคาน์ตี ที่เสี่ยงเกิดไฟป่ารุนแรงและกระแสลมรุนแรง
เมื่อวันเสาร์นับเป็นวันที่มีประกาศเตือนภัยทอร์นาโดนมากที่สุดทั่วประเทศนับจากเดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยมีการเตือนภัยทอร์นาโดรวมอย่างน้อย 127 ครั้ง
ล่าสุดศูนย์คาดการณ์พายุลดระดับคำเตือนอันตรายของพายุในภาคตะวันออกเฉียงใต้จากจากระดับ 5 ที่เป็นระดับสูงสุด เป็นระดับ 4 แล้วสำหรับช่วงค่ำวันเสาร์และเช้ามืดวันอาทิตย์ แต่เตือนว่า ยังมีอันตรายจากพายุรุนแรงและทอร์นาโด โดยเฉพาะในรัฐแอละแบมาและรวมไปถึงรัฐจอร์เจีย
นอกจากนี้ยังมีคำเตือนน้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมในบางส่วนของรัฐมิสซิสซิปปี, รัฐหลุยเซียนา และรัฐเทนเนสซี รวมไปถึงบางส่วนในรัฐแอละบามาและอาร์คันซอ