ประท้วงเดือดทั่วกรีซ ในวันครบรอบ 2 ปี รถไฟชนกันดับ 57 คน

กรีซแทบอยู่ในภาวะชะงักงันในวันศุกร์ (28 กุมภาพันธ์) เมื่อหน่วยงานรัฐ  ธนาคาร และธุรกิจต่าง ๆ ปิดทำการ เรือ รถไฟ และเครื่องบิน หยุดให้บริการ โดยประชาชนหลายอาชีพ เช่น เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ คนขับรถไฟ ทนายความ และครู ร่วมผละงานนาน 24 ชม. ซึ่งเป็นการหยุดงานประท้วงในวงกว้างอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับจากช่วงหลังวิกฤตการเงินปี 2552 นอกจากนี้ยังมีการชุมนุมประท้วง 346 แห่ง ทั่วกรีซและในบางเมืองของยุโรป



การประท้วงมีขึ้นเพื่อทวงความยุติธรรมจากเหตุการณ์รถไฟโดยสารและรถไฟบรรทุกสินค้าชนประสานงาบนรางเดียวกันใกล้เมืองเทมปี กอร์จ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 57 คน เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเป็นอุบัติเหตุรถไฟชนกันที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ

ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ที่กำลังเดินทางกลับไปที่มหาวิทยาลัยในเมืองเทสซาโลนิกิ หลังช่วงวันหยุดสุดสัดาห์ 3 วัน การเสียชีวิตของพวกเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของการไร้ความสามารถและการขาดความรับผิดชอบของรัฐบาล

และในเช้าวันนี้ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนรวมตัวที่จัตุรัสซินแท็กมาในกรุงเอเธนส์ และมีป้ายประท้วงที่มีข้อความว่า “รัฐบาลฆาตกร” โดยช่วงแรกเป็นการชุมนุมอย่างสงบ แต่เริ่มมีความรุนแรงในช่วงบ่ายเมื่อผู้ประท้วงเยาวชนขว้างระเบิดเพลิงใส่ตำรวจ และพยายามฝ่าแนวกีดขวางที่หน้ารัฐสภา และตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลาย

รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีคิเรียคอส มิตโซทาคิส ซึ่งชนะเลือกตั้งอีกสมัยหลังอุบัติเหตุ เผชิญเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากญาติของผู้เคราะห์ร้ายว่า ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบในรัฐสภาเพื่อหาผู้รับผิดชอบทางการเมือง ขณะที่รัฐบาลยืนยันไม่ได้ทำอะไรผิด และเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่จะตรวจสอบ



ขณะที่รายงานการสืบสวนอิสระ ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า ความบกพร่องของอุปกรณ์ที่เรื้อรังยาวนาน  การขาดการซ่อมบำรุง การขาดแคลนเจ้าหน้าที่ และความผิดพลาดของมนุษย์ในระบบการรถไฟ นำไปสู่โศกนาฏกรรม นอกจากนี้พบว่า มีการจัดสรรเงินหลายล้านยูโรเพื่อติดตั้งระบบความปลอดภัยตามเส้นทางรถไฟ แต่โครงการยังไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะคอร์รัปชันและระบบราชการ