การประท้วงจัดขึ้นในหลายเมืองเอกของรัฐ และเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ รวมถึง กรุงวอชิงตัน, เมืองออร์ลันโด และเมืองซีแอตเทิล ภายใต้การนำของขบวนการ 50501 และองค์กรอื่น ๆ เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันประธานาธิบดี โดยผู้ประท้วงแสดงความโกรธแค้นต่อตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกและกำกับดูแลสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาล ด้วยการตะโกนคำขวัญอย่าง “ไม่ใช่วันประธานาธิบดีของฉัน” (Not My President's Day) และ “ไม่มีวันกษัตริย์” (No King’s Day) รวมไปถึงต่อต้านเผด็จการฟาสซิสต์ และปกป้องรัฐธรรมนูญ
ผู้จัดการประท้วง บอกว่า การประท้วงครั้งนี้มุ่งต่อต้านการกระทำที่ผิดกฎหมายและทำลายประชาธิปไตยของรัฐบาลทรัมป์ และพันธมิตรในระบอบธนาธิปไตย ซึ่งหมายถึงบรรดามหาเศรษฐีที่กุมอำนาจรัฐ
ในกรุงวอชิงตันมีผู้ประท้วงหลายร้อยคนร่วมชุมนุม และป้ายประท้วงหนึ่งมีข้อความว่า “เนรเทศมัสก์ โค่นทรัมป์” และหลายคนชูธงชาติกลับหัว ส่วนที่นครนิวยอร์ก ผู้ประท้วงหลายร้อยคนเดินขบวน โดยชูป้ายผ้าที่มีข้อความว่า “หยุดยั้งการรัฐประหารของพรรครีพับลิกัน” (Stop the GOP coup) และตะโกนคำขวัญการประท้วงต่าง ๆ ที่รวมถึง “ไม่ใช่ประธานาธิบดีของฉัน” และ “ไม่มีใครเลือกอีลอน มัสก์” นอกจากนี้ผู้ประท้วงกว่า 100 คน ตะโกน “หยุดยั้งรัฐประหาร” และ “ไม่เอาเผด็จการ” ที่ด้านนอกศาลาว่าการเมืองซินซินนาติ
ส่วนที่เมืองบอสตัน ประชาชนเกือบ 1,000 คน เดินขบวนฝ่าหิมะจากอาคารสภาของรัฐไปถึงศาลาว่าการเมือง โดยตะโกนว่า “อีลอน มัสก์ออกไป” และบางคนชูป้ายประท้วงที่มีข้อความว่า “นี่คือการรัฐประหาร” และ “ผู้รักชาติจงยืนหยัด” รวมไปถึงป้ายที่เป็นภาพลุงแซม และข้อความว่า “ผมต้องการคุณให้ต่อต้าน” (I Want You to Resist)
นอกจากนี้ผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวที่หน้าอาคารสภาของรัฐในเมืองฟีนิกซ์ และพยายามบุกเข้าไปขณะที่คณะกรรมาธิการวุฒิสภาของรัฐกำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทั่วรัฐสนับสนุนนโยบายตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง
ขบวนการ 50501 (50501 Movement) ซึ่งหมายถึง 50 รัฐ 50 การชุมนุม และ 1 วัน เริ่มต้นขึ้นโดยกลุ่มรากหญ้า ที่นัดหมายผ่านเรดดิต, อินสตาแกรม, บลูสกาย, ดิสคอร์ด และโซเชียลมีเดีย อื่น ๆ และขณะนี้มีสมาชิก 115,000 คน
การชุมนุม 50501 จัดขึ้นทั่วประเทศครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อทรัมป์และนโยบายของเขา รวมไปถึงมัสก์ ที่รับผิดชอบการตัดรายจ่ายของรัฐบาล โดยการประท้วงมีขึ้นหลังจากทรัมป์ลงนามคำสั่งมากมาย และมีการปลดเจ้าหน้าที่รัฐในหลายหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เพื่อลดการสิ้นเปลืองงบประมาณ