ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์ ที่กำกับดูแลสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ ดอจ (DOGE) ให้สัมภาษณ์คู่กันกับฌอน แฮนนิตี พิธีกรของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ ที่จะออกอากาศในวันอังคาร (18 กุมภาพันธ์) และบทสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งยาวเพียง 1 นาทีที่ถูกเผยแพร่ เริ่มด้วยคำถามที่ว่า รู้หรือไม่ว่า สื่อบางสำนักนำเสนอรายงาน ที่ต้องการให้ทั้งคู่แตกหักกัน และถึงขั้นเรียกว่า “ประธานาธิบดีอีลอน มัสก์” และทรัมป์ ตอบว่า มัสก์โทรศัพท์หาเขาเพื่อบอกว่า “พวกเขาพยายามทำให้เราแตกคอกัน” ซึ่งเขาก็บอกกลับไปว่า “แน่นอน” พร้อมทั้งบอกด้วยว่า เขาเชื่อว่า วิธีนี้ไม่ได้ผล เพราะประชาชนฉลาด
แต่บรรดานักวิเคราะห์ คาดว่า ความสัมพันธ์ของผู้นำชาติมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลกและมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก อาจขาดสะบั้นในที่สุด เพราะทรัมป์จะไม่อดทนให้ใครโดดเด่นเกินหน้าตัวเอง
และเมื่อวันอังคาร (12 กุมภาพันธ์) มัสก์ขโมยซีนระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับทรัมป์ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ขณะทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพิ่มอำนาจให้มัสก์ และ DOGE ในการลดขนาดของหน่วยงานรัฐบาลกลางและตัดรายจ่าย
ลอเรนซ์ โอ' ดอนเนลล์ พิธีกรรายการ "The Last Word" ทางช่อง MSNBC บอกว่า มัสก์ทำให้ทรัมป์ถูกหยามหน้า และเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ไร้อำนาจที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เขาแสดงให้เห็นว่า ทรัมป์ไม่ใช่เจ้านายของเขา และเขาจะทำหรือพูดอะไรก็ได้
มัสก์เลือกสวมสูททับเสื้อยืดและสวมหมวกแก๊ป แตกต่างจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ที่มักสวมสูท เสื้อเชิ้ต และผูกไท เมื่อเข้าพบทรัมป์ รวมทั้งมัสก์ยังพาลูกชาย วัย 4 ขวบมาร่วมการพบปะกับผู้นำประเทศที่เป็นการพบปะอย่างเป็นทางการ และยังให้ลูกขี่คอบางช่วงขณะตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วย
มัสก์ยังพูดแทรกทรัมป์เป็นระยะๆ รวมแล้วเขายังพูดมากกว่าทรัมป์ โดยมัสก์พูด 3,666 คำ และทรัมป์พูด 2,487 คำ คำพูดของมัสก์เต็มไปด้วยข้ออ้างที่ไร้หลักฐานว่า พบการใช้จ่ายงบประมาณอย่างสิ้นเปลืองและการฉ้อโกงของรัฐบาลกลางรวมหลายพันล้านดอลลาร์
ทั้งทรัมป์และมัสก์กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการปลดเจ้าหน้าที่รัฐในหลายหน่วยงานรวมมากกว่า 9,500 คนตามแผนลดขนาดของรัฐบาลกลาง และมัสก์ตอบสื่อตอนเข้าพบทรัมป์โดยชี้แจงว่า มีความจำเป็นต้องตัดรายจ่ายรัฐบาลเพื่อไม่ให้ประเทศล้มละลาย และยังโต้เสียงวิจารณ์เรื่องปมผลประโยชน์ทับซ้อน