กระทรวงคุ้มครองพลเรือนของกรีซ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (6 กุมภาพันธ์) ให้เกาะซานโตรินี ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศอยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินจนถึงวันที่ 3 มีนาคม สืบเนื่องจากสถานการณ์แผ่นดินไหวตลอดหนึ่งสัปดาห์ โดยล่าสุดเกิดแผ่นดินไหวที่วัดความรุนแรงได้ 5.2 แมกนิจูดเมื่อค่ำวันพุธ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เกินกว่า 5 แมกนิจูด และเกิดแผ่นดินไหวที่วัดได้เกิน 4 แมกนิจูดอีก 2 ครั้งในวันพฤหัสบดี
แม้แผ่นดินไหวไม่ได้ทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือสร้างความเสียหายรุนแรง แต่ประชาชนทยอยอพยพออกจากเกาะไปแล้วกว่า 11,000 คน
นายกรัฐมนตรีคิเรียคอส มิตโซตาคิส ลงสำรวจพื้นที่เกาะซานโตรินีในวันศุกร์ (7 กุมภาพันธ์) และบอกว่า รัฐบาลจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนอยู่ ในความสงบ
รัฐบาลได้เตรียมมาตรการรับมือหากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากกว่านี้ หลังจากยังไม่มีสัญญาณว่าแผ่นดินไหวจะลดน้อยลง และเตือนด้วยว่า มีความเสี่ยงเกิดดินถล่มในบางพื้นที่ของเกาะ รวมทั้งสั่งปิดโรงเรียน และเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงท่าเรือที่ล้อมรอบด้วยผาหิน ขณะที่ทหาร หน่วยดับเพลิงและตำรวจ เตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์
แม้เกาะซานโตรินีตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟ 2 ลูก อย่างมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า ไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดการปะทุในภูเขาไฟดังกล่าว และย้ำว่า แผ่นดินไหวต่อเนื่องในขณะนี้ไม่เกี่ยวข้องกับภูเขาไฟ แต่ความถี่ของแผ่นดินไหวในขณะนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และอาจยืดเยื้อหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งสุดท้ายที่เกาะซานโตรินี เกิดขึ้นในปี 2499 วัดความรุนแรงได้ 7.5 และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 ราย
เกาะซานโตรินีมีประชากรอาศัยถาวรราว 15,000 คน และในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนมากกว่า 3.4 ล้านคน