svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

“ไบเดน” เซ็นอภัยโทษ ปกป้องคนวิจารณ์ “ทรัมป์” เสี่ยงถูกล้างแค้น

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใช้อำนาจในไม่กี่ชั่วโมงสุดท้ายก่อนพ้นวาระ ด้วยการประกาศอภัยโทษล่วงหน้าต่ออดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่ตกเป็นเป้าล้างแค้นของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอาจถูกดำเนินคดีจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ในวันจันทร์ (20 มกราคม) เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนวาระการดำรงตำแหน่งจะสิ้นสุดลง โดยประกาศอภัยโทษล่วงหน้าเพื่อปกป้องบุคคลที่กล้าวิจารณ์โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งรวมถึง พลเอก มาร์ค มิลลีย์ อดีตประธานเสนาธิการทหารร่วม, นายแพทย์แอนโทนี ฟาวซี อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของทำเนียบขาว, สมาชิกรัฐสภา ที่อยู่ในคณะกรรมาธิการสอบสวนเหตุการณ์บุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 และลิซ เชนีย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน ที่หันมาสนับสนุนพรรคเดโมแครต

“ไบเดน” เซ็นอภัยโทษ ปกป้องคนวิจารณ์ “ทรัมป์” เสี่ยงถูกล้างแค้น

ไบเดนอาศัยอำนาจพิเศษของประธานาธิบดีเพื่อเป็นเกราะป้องกันบุคคลเหล่านี้ไม่ให้ถูกแก้แค้นจากทรัมป์ ที่จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ในวันนี้ โดยเขาอ้างถึงสถานการณ์พิเศษ ที่เขาไม่อาจนิ่งเฉยโดยไม่ทำอะไร เขากังวลว่า เมื่อทรัมป์รับตำแหน่ง ก็จะตามดำเนินคดีกับศัตรูของเขาทันที พนักงานภาครัฐหลายคนถูกคุกคามและข่มขู่สำหรับการปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์

แต่เขาระบุด้วยว่า การอภัยโทษดังกล่าวไม่ควรถูกเข้าใจผิดว่า เป็นการยอมรับว่าคนเหล่านั้นกระทำความผิด และประเทศติดค้างพนักงานภาครัฐเหล่านี้สำหรับความทุ่มเทอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยต่อประเทศ พวกเขาไม่ควรตกเป็นเป้าของการดำเนินคดีที่มีเหตุจูงใจทางการเมืองและไม่มีความชอบธรรม

“ไบเดน” เซ็นอภัยโทษ ปกป้องคนวิจารณ์ “ทรัมป์” เสี่ยงถูกล้างแค้น

ผู้ที่ได้รับการอภัยโทษเพื่อป้องกันไว้ก่อนล้วนเป็นคนที่ถูกวิจารณ์จากทรัมป์และพันธมิตรอย่างรุนแรง โดยพลเอกไมล์ลีย์ เคยดำรงตำแหน่งประธานเสนาธิการทหารร่วมในสมัยแรกของทรัมป์ แต่เขาออกมาเตือนในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า ทรัมป์เป็นพวกฟาสซิสต์

ส่วนนายแพทย์ฟาวซีเป็นผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ และรับผิดชอบควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในรัฐบาลทรัมป์ โดยมีความเห็นโต้แย้งและวิจารณ์ทรัมป์หลายครั้งเกี่ยวกับนโยบายควบคุมการระบาด นอกจากนี้การสอบสวนของคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับเหตุการณ์ผู้สนับสนุนของทรัมป์บุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 บ่งชี้ว่า ทรัมป์มีส่วนปลุกระดมที่มุ่งนำไปสู่ความพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2563 ที่ไบเดนเป็นฝ่ายชนะ

แม้การอภัยโทษของไบเดนมีขึ้นโดยคนเหล่านี้ไม่ได้เรียกร้อง และบางคนแสดงความซาบซึ้งกับการตัดสินใจของเขา แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นการอภัยโทษล่วงหน้าอย่างกว้างขวางอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

ในสมัยประธานาธิบดีเจอรัลด์ ฟอร์ด อภัยโทษแก่ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีคนที่ 37 ที่มีความเสี่ยงถูกดำเนินคดี แต่บคุคคลที่ได้รับการอภัยโทษจากไบเดนครั้งนี้ไม่ได้มีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีในอนาคตอันใกล้ แม้ว่าไบเดนเชื่อว่า คำขู่ของทรัมป์และความเสี่ยงของบุคคลเหล่านี้มีน้ำหนักมากพอที่พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครอง

นอกจากนี้การที่ไบเดนอภัยโทษแก่คนที่ยังไม่เคยถูกสอบสวนด้วยซ้ำ จะกลายเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่สำหรับการใช้อำนาจอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นโดยทรัมป์และประธานาธิบดีคนอื่น ๆ ในอนาคต