
ในวันรับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (20 มกราคม) จะเริ่มต้นด้วยพิธีทางศาสนาในโบสถ์เซนต์จอห์น ที่สวนสาธารณะลาฟาแยตต์ รอบทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงวอชิงตัน ตามด้วยงานเลี้ยงจิบน้ำชาที่ทำเนียบขาว
หลังจากนั้นจะมีการแสดงดนตรีและคำกล่าวเปิดงานพิธีสาบานตนประธานาธิบดีในเวทีหลัก ที่สนามหญ้าทิศตะวันตกของอาคารรัฐสภา ตั้งแต่เวลา 9.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.30 น. ตามเวลาไทย โดยพิธีสาบานตนครั้งนี้มีธีมว่า “ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนของเรา : คำมั่นสัญญาภายใต้รัฐธรรมนูญ” (Our Enduring Democracy: A Constitutional Promise)
พิธีสาบานตนถูกเปลี่ยนไปจัดภายในห้องโถงใหญ่ของอาคารรัฐสภาเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี นับจากสมัยประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน เนื่องจากสภาพอากาศหนาวจัด ที่คาดว่าจะมีอุณหภูมิระหว่าง -5 ถึง -12 องศาเซลเซียส โดยพิธีจะเริ่มประมาณ 11.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 23.30 น. ตามเวลาไทย และทรัมป์จะกล่าวคำสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในเวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 24.00 น. ตามเวลาไทย โดยใช้ไบเบิลของอดีตประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น และของตัวเอง เหมือนครั้งที่รับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2560 ตามด้วยเจดี แวนซ์ สาบานตนรับตำแหน่งรองประธานาธิบดี และทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์แรกในฐานะผู้นำสหรัฐฯ
หลังจากนั้นทรัมป์จะเข้าไปในห้องทำงานของประธานาธิบดี ใกล้ห้องประชุมวุฒิสภา เพื่อลงนามในเอกสารสำคัญต่าง ๆ เพื่อเริ่มการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเป็นทางการ
คณะกรรมการร่วมของสภาคองเกรสเพื่อเตรียมงานพิธีสาบานตน จะจัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งทรัมป์จะเข้าร่วมงานในภายหลัง และขบวนพาเหรดจะจัดขึ้นภายในสนามกีฬาแคปิตอล วัน เนื่องจากอากาศหนาวจัด และในช่วงค่ำ ทรัมป์จะปรากฏตัวในงานเลี้ยงแบบพิธีการใน 3 งานทั่วเมือง
สำหรับสิ่งที่น่าจับตาในพิธีสาบานตนครั้งนี้ถือถ้อยแถลงแรกในฐานะประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของทรัมป์ เมื่อเทียบกับในสมัยแรกที่เขาใช้เวลาเกือบ 17 นาที ถ้อยแถลงครั้งนั้นฉีกประเพณีที่มักให้ความหวังและคำมั่นสัญญาสร้างความสามัคคี แต่กลับสะท้อนถึงชีวิตชาวอเมริกันที่เผชิญกับอาชญากรรมและยาเสพติด รวมไปถึงคำอ้างผิด ๆ เกี่ยวกับการศึกษา, การป้องกันประเทศ, เศรษฐกิจ และชายแดนภาคใต้
เขาได้สร้างวลดีเด็ดในถ้อยแถลงครั้งแรกเมื่อ 8 ปีที่แล้วด้วยว่า “การฆ่าล้างชาวอเมริกันต้องยุติเดี๋ยวนี้ นับจากวันนี้เป็นต้นไปวิสัยทัศน์ใหม่จะปกครองดินแดนของเรา และจากวันนี้เป็นต้นไป จะต้องเป็นอเมริกามาก่อน อเมริกามาก่อน”
ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งล่าสุด ทรัมป์ขู่มาโดยตลอดว่าจะมุ่งแก้แค้นฝ่ายตรงข้ามและศัตรูทางการเมือง ซึ่งรวมถึงอัยการที่สอบสวนและดำเนินคดีกับเขา นักการเมืองและสื่อฝ่ายตรงข้าม ทำให้ถูกจับตาว่า ถ้อยแถลงครั้งแรกของทรัมป์จะส่งสัญญาณทำตามขู่รวดเร็วแค่ไหน
ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานอ้างเนื้อหาบางส่วนที่เตรียมไว้สำหรับถ้อยแถลงแรกของทรัมป์ว่า เขาจะเรียกร้อง “การปฏิวัติสามัญสำนึก” และระบุว่า “ผมกลับสู่ตำหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งด้วยความั่นใจและความหวังในแง่บวกว่า เราอยู่ในจุดเริ่มต้นที่น่าตื่นเต้นของศักราชใหม่แห่งความสำเร็จของชาติ และท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงที่ถาโถมในประเทศ ผมอยากบอกกับชาวอเมริกันในวันนี้ว่า ถึงเวลาที่เราจะยืนหยัดด้วยความกล้าหาญ ความแข็งแรง และพลัง ของอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์“
นอกจากนี้ในวันแรกที่รับตำแหน่ง ทรัมป์ยังเตรียมลงนามในเอกสารสำคัญราว 100 ฉบับ ซึ่งมีทั้งคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย และคำประกาศอื่น ๆ ที่มักไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย และคาดว่า จะครอบคลุมทั้งเรื่องนโยบายเนรเทศผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย, นโยบายพลังงาน, และการยกเครื่องหน่วยงานภาครัฐและรื้อระบบราชการต่าง ๆ และหลายฉบับจะเป็นการยกเลิกโนบายในสมัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
เพียงหนึ่งวันก่อนการสาบานตน ทรัมป์จัดปราศรัยฉลองชัยชนะกับผู้สนับสนุนที่สนามกีฬาแคปิตอล วัน อารีนาเมื่อวันอาทิตย์ และสนามกีฬาแห่งนี้จะเปิดให้ผู้สนับสนุนเข้าชมการถ่ายทอดพิธีสาบาตนในวันนี้ด้วย ทรัมป์บอกกับผู้สนับสนุนว่า เขาจะลงนามในคำสั่งมากมายในวันพรุ่งนี้ ที่จะทำให้พวกเขามีความสุขอย่างที่สุด และคำสั่งที่โง่เขลาของรัฐบาลไบเดนจะถูกยกเลิกภายในไม่กี่ชั่วโมงเมื่อเขาสาบานตนรับตำแหน่ง
นอกจากนี้เขา บอกว่า “ชาวอเมริกันให้ความไว้วางใจกับเรา และเราจะตอบแทนด้วยวันแรกที่ดีที่สุดและสัปดาห์แรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และ 100 วันแรกที่วิเศษที่สุดที่ประธานาธิบดีคนใดเคยทำได้ในประวัติศาสตร์อเมริกัน”
เขาบอกด้วยว่า “เราจะสาบานตนรับตำแหน่งด้วยกันในวันพรุ่งนี้” เขาจะลดภาษีและอัตราเงินเฟ้อ ลดราคาสินค้า เพิ่มค่าจ้าง และทำให้โรงงานหลายพันแห่งกลับมาที่สหรัฐฯ เขาบอกด้วยว่า “เราจะทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง “